2015年2月23日月曜日

「8」ตามรอยวรรณกรรม 平家物語 ー清水寺

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้ว คราวนี้ กลับมาพร้อมกับความรู้ล้วนๆ

           วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ผู้เขียนต้องรายงานหน้าห้องเรื่อง 平家物語  จึงหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พื่เอาไปบอกต่อให้เพื่อนๆในห้องใครที่เคยเรียนวรรณคดีญี่ปุ่น คงคุ้นๆชื่อนี้กันอยู่แล้ว วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นเอก ที่สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เป็นวรรณกรรมนิยายสงคราม ที่ต้องการจะสื่อเรื่องอนิจจัง ความไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง บุคคลผู้เคยเรืองอำนาจ สักวันก็อาจจะล่มสลายได้

            บทความในครั้งนี้ ขอเสนอ 漢語 ตามชื่อเรื่องคือ 「平家」ค่ะ
「平」 คือ ชื่อตระกูลทะอิระ  ส่วน「家」ก็คือ ครอบครัว วรรณกรรมเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของตระกูลทะอิระ ตั้งแต่เริ่มเรื่องอำนาจ จนถึง ตระกูลล่มสลาย จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง 「平家」ค่ะ

            ภายในเรื่อง มี漢語ที่น่าสนใจมากมาย จะขอยกตัวอย่าง keyword  ซึ่งอาจจะอยู่ในข้อสอบ(เก็งคันจินั่นเองค่ะ)

1。無常観 (むじょうかん) หมายถึง ความอนิจจัง ความไม่จีรัง สังเกตว่ามี 「無」อยู่ข้างหน้า และว่า ない คือ ไม่มีค่ะ

2。保元 (ほうげん) หมายถึง การแย่งชิงอำนาจ วรรณกรรมเรื่องนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจ การสู้รบ เลยคิดว่าเป็นอีกคำที่สำคัญที่น่าจะออกสอบค่ะ

3。栄枯盛衰 (えいこせいすい) หมายถึง มีรุ่งเรืองก็ต้องมีเสื่อม คำนี้อาจจะยากซักหน่อย แต่ว่า เป็นคำสำคัญเลยทีเดียวค่ะ เพราะวรรณกรรมเรื่องนี้ สะท้อนข้อคิดผ่านตระกูลทะอิระ ซึ่งเคยเรืองอำนาจ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องล่มสลายลง

4。軍記 (ぐんき) หมายถึง สงคราม อย่าลืมนะคะ ว่าวรรณกรรมเรื่องนี้ คือนิยายประเภทสงคราม(軍記物語)

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
สาระความรู้ เก็งข้อสอบไปแล้ว หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะคะ แม้จะยังไม่ได้เข้ามาอ่าน แต่วันพฤหัสบดีนี้ จะบอกให้ห้องเรียนอีกทีค่ะ :)output ออกมาแล้ว ก็ต้องนำไปใช้ บอกต่อ ถึงจะมีประโยชน์

ชื่อบทความก็บอกอยู่ว่า ตามรอย平家物語 แน่นอนค่ะ ไม่พลาดดด พาไปเที่ยวดีกว่า
สถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำก็คือ 清水寺ค่ะ อยู่ที่จังหวัดเกียวโต คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส แล้ววัดนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ平家物語ละคะ


คำตอบก็คือ วัดนี้ในสมัยก่อนเคยถูกเผาค่ะ ในเรื่องกล่าวไว้ว่า ช่วงสมัยจักรพรรดินิโจเสียชีวิต ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในเมืองขึ้น และหนึ่งในเหตุการณ์วุ่นวายนั้นก็คือ วัดน้ำใส โดนเผานั่นเองค่ะ

ความสำคัญของวัดนี้ เชื่อกันว่า เป็นวัดแห่งความรักค่ะ (恋愛運) จะมีศาลเจ้าความรัก ที่ให้แตะหินก้อนแรกก่อน แล้วหลับตา เดินไปจนแตะหินอีกก้อนที่วางห่างออกไป หากสามารถไปแตะหินอีกก้อนได้ โดยระหว่างทางนั้นหากได้ยินเสียงบอกทาง คนๆนั้นก็คือ เนื้อคู่ เรานั่นเองค่ะ



นอกจากนี้ ยังมีสายน้ำสามสาย คือ สายการงาน สุขภาพ และความรัก(ความรักสายกลางค่ะ อิอิ) หากใครไป อย่าลืมต่อแถวดื่มน้ำสายกลางนะคะ (ผู้เขียนกรอกกลับบ้านมาแช่เย็นดื่มต่อด้วยค่ะ 555)

ขอให้อ่านนหนังสือสอบอย่างมีความสุขนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามนะคะ

สวัสดีค่ะ

2015年2月20日金曜日

「7」1課〜6課の内省

แต่ละบทความที่เขียนไป เหมือนจะเลอะเลือนไปบ้าง หาประเด็นที่ต้องการจะสื่อไม่เจอ
วันนี้เลยคิดที่จะ内省ตัวเองค่ะ ว่าแต่ละบทความนั้น ต้องการจะสื่ออะไร

「1」และ「3」ただいま発車します。
เมื่อปีที่แล้วที่เท้าสองข้างเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่น ด่านแรกเลยก็เจอสถานีรถไฟแล้ว คันจิบางตัวก็อ่านไม่ออก แม้จะศึกษามาบ้างแล้วว่า รถไฟญี่ปุ่นจะมีตารางเวลาและแต่ละขบวนจะมีความเร็วต่างกัน แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร คงรอดแหละ พอถึงสถานีเท่านั้นแหละ เงิบเลยค่ะ คันจิแปลว่าเร็วๆ เหมือนกันหมด แล้วตัวไหนมันเร็วกว่า อันไหนมันยังไง จากเหตุการณ์ในตอนนั้น ทำให้คิดว่า คนที่มาประเทศนี้ เรื่องรถไฟสำคัญที่สุด สองบทความแรกที่ตั้งใจจะทำ คือ ให้ความรู้เรื่องนี้กับคนไทยที่จะไปญี่ปุ่น แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่ที่ ขบวนรถไฟของแต่ละบริษัท จะมีคำศัพท์ต่างกัน แต่คำศัพท์ก็ยังคล้ายๆกันอยู่ หากมีโอกาส ก็อยากจะทำคำศัพท์ความเร็วของรถไฟในแต่ละบริษัทขึ้นมา เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ และเลือกใช้ถูก รวมไปถึงเรียนรู้คำศัพท์ไปด้วย สนุกไปกับการเดินทาง และเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น

หลังจากเริ่มคิด เริ่มทำ และเริ่มเขียนบทความ ทำให้รู้คำศัพท์ คันจิ คำว่า"เร็ว" เลยถือโอกาสเอา blog นี้ ไปเป็นสื่อการสอนนักเรียนที่รับเป็นติวเตอร์อยู่ น้องกำลังสอบN3 เจอคำศัพท์คำว่า 急速 พอเจอปุ๊ปก็นึกขึ้นมาได้ เลย้ผิด blog ตัวเองให้น้องดู นี่ๆๆ พี่ทำอยู่พอดีเลย สอนไปด้วย เม๊าแตกไปด้วย สนุกดีค่ะ

「2」LANG8の内省
บทความนี้ ถือได้ว่าเป็นการ output ได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ผู้เขียนได้คำแนะนำจากคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ได้นำคำแนะนำตรงนั้น ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง คือ เมื่อวันที่13−15กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่ง ได้เอาประโยคที่คนญี่ปุ่นแก้มาให้ 非常に興味深いこと ไปตอบคำถามตอนสัมภาษณ์ แทนที่จะใช้面白いก็เปลี่ยนมาใช้อันนี้แทน รู้สึกว่า การเปลี่ยนคำศัพท์เพียงนิดเดียว ก็สามารถเปลี่ยนการรับรู้ของคนได้เหมือนกัน

「4」−「5」秋になると、紅葉を見に行きましょうか。
ส่วนตัวแล้ว ฤดูญี่ปุ่นทั้งหมด 4ฤดู ชอบฤดูนี้มากที่สุด และตอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น สงสัยมากว่า こうよう เนี่ย ทำไมมันอ่านเหมือนもみじ เคยถามเพื่อนคนญี่ปุ่นแล้วเหมือนกัน แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ "มันก็เหมือนๆกันนะ ต่างกันยังไงก็ไม่รู้เนอะ" เลยอึ้งไปซักพัก แต่ก็ไม่ได้หาต่อว่า ทำไมมันเหมือนกัน ต่างกันยังไง การเขียน blog ครั้งนี้เลย คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้ตัวเองกระจ่าง และคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่อาจจะเคยสงสัยแบบนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังอยากจะแนะนำสถานที่นอกรูทคนไทย ทัวร์ต่างๆที่พาไป ให้สัมผัสกับธรรมชาติ วัดที่สวยงามของประเทศญี่ปุ่น นอกจาก landmark ทั่วๆไป

Feedback ที่ได้รับกลับมาทั้งจากอาจารย์และเพื่อนคือ น่าจะทำให้ตรงกับฤดูกาล และเพื่อนถามเกี่ยวกับ concert ขาวแดง ที่ใช้คันจิตัว「紅」หากมีเวลา จะหาคำตอบมาให้ค่ะ

「6」ほっかいどう〜 美瑛の「美」
 จากfeedback ของอาจารย์ ก็เลยทำให้ตรงกับฤดูกาล หน้าหนาว คือ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวนอกรูทคนไทยและทัวร์ เอาประสบการณ์ของตนเองตอนออกเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่นมา และนำใช้คำศัพท์จากสถานที่เหล่านี้ เพิ่มพูนความรู้เรื่อง漢語  ผู้เขียนมั่นใจพอสมควรว่า คงมีน้อยคนมากที่รู้จัก 美瑛 หากไม่ได้ค้นคว้าสถานที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง คงไม่รู้จัก จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้ประสบการณ์ของตัวเอง output บอกต่อให้คำอื่นรู้ รวมถึงคันจิคำว่า 「美」ตั้งแต่เรียนมา 美人 อย่างเดียวเลย พอมาค้นคว้าคำศัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ「美」แล้วเลือกคำที่น่าจะใช้บ่อย หรือน่าสนใจออกมา และหวังว่า ผู้อ่านคงจะนำไปใช้ได้ แต่ที่แน่ๆ ผู้เขียนกำลังทำสื่อการสอนเพิ่มเติมไปสอนนักเรียนที่เรียนพิเศษด้วยอยู่ค่ะ

จากทุกบทความที่เขียนมา ทำให้เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาว่า ทุกครั้งที่เขียนบทความ จะต้องตั้งประเด็นที่ต้องการจะสื่อให้ชัดเจน บนหัวบทความ เวลาเขียนไปเรื่อยๆ จะเห็นประเด็นที่ต้องการจะสื่อ และไม่ออกนอกเรื่อง ไร้สาระ เอาแต่มันส์อย่างเดียว

สำหรับ内省ครึ่งแรก ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ เป้าหมายต่อไปคือ พยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุด มีสาระและผู้อ่านสามารถนำไป output  ได้ค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า จะพาไปเที่ยวไหน อย่าลืมติดตามนะคะ





2015年2月18日水曜日

「6」ほっかいどう〜 美瑛の「美」

สวัสดีค่ะ นักเดินทางทั้งหลาย

กลับมาอีกแล้วค่ะ เที่ยวไปพร้อมความรู้เล็กๆน้อยๆ
ครั้งนี้จะมาแนะนำสถานที่selfie เก๋ๆ สำหรับคนรักต้นไม้
ตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาวใช่มั้ยคะ คนไทยค่ะคนไทย ฤดูหนาว ไปไหนกันคะ
ฮอกไกโดค่ะ ดูเหมือนว่าเมืองนี้จะเป็นsignature เลยก็ว่าได้ แล้วฮอกไกโดมีอะไรเที่ยวบ้าง
นอกจากเทศกาลหิมะ และตัวเมืองซัปโปโร กินปู ซุปแกงกะหรี่ เมลอน ไม่ว่าทัวร์ไหนก็ รูทเดิมๆ
วันนี้ จะมาแนะนำสถานที่เก๋ๆ ชิคๆค่ะ คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันค่ะ

ที่จะแนะนำก็คือ 美瑛(びえい)อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรไปประมาณ1ชั่วโมงค่ะ นั่งรถไฟง่ายม๊ากก ไม่ต้องกังวัล หากใครเริ่มต้นจากเมืองซัปโปโร ให้นั่งรถไฟJR ไปลงสถานีasahikawa ใครจะแวะชมสวนสัตว์ก่อนก็ได้นะคะ หลังจากนั้นให้เปลี่ยนเป็นรถไฟท้องถิ่น ไปลงที่สถานี 美瑛 ได้เลยค่ะ ง่ายมากๆ แต่ต้องรักษาเวลานิดนึงนะคะ เพราะรถไฟท้องถิ่นจะมีรอบน้อยค่ะ หากใครขึ้นไม่ทันขบวนสุดท้าย ลำบากแย่เลย


 美瑛 จะเด่นที่ต้นไม้ค่ะ จะมีต้นไม้ที่มีความหมายกับสถานที่นั้นๆ ตามแต่ละสถานที่จะมีป้ายบอกประวัติไว้ เพราะอะไรถึงมีความสำคัญ

นอกจากจะชมต้นไม้ ธรรมชาติแล้ว ยังมีออนเซ็น ให้แช่ด้วยค่ะ แช่ไปด้วย ชมบรรยากาศภายนอกไปด้วย สวยงาม และคลายความหนาว แก้ปวดเมื่อยด้วย เยี่ยมไปเลยค่ะ

สองรูปข้างบน ถ่ายเองกับมือเลยค่ะ ถึงจะเป็นคนถ่ายรูปไม่เก่ง ภาพก็ออกมาสวยได้ เพราะเป็น 美瑛ค่ะ

ーーーーーーーーーーーーー

เที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ ขอให้ความรู้ว่า คันจิ 美 ที่น่าสนใจค่ะ
เป็นกุลสตรีนั้น ควรจะมี美อะไรบ้าง 
ข้อแรก  美挙(びきょ) หมายถึง うつくしい行為 การกระทำที่ยอดเยี่ยมสมควรแก่การชมเชย
ข้อสอง 美言(びげん) หมายถึง うまくいう言葉 คำศัพท์ที่พูดแล้วลื่นหู
ข้อสาม 美感(びかん) หมายถึง 美に対する感覚 มีความคิดที่งดงาม
ข้อสี่   美音(びおん) หมายถึง うつくしい音または声 เสียงที่ไพเราะ

เชื่อค่ะว่า ถ้ามีครบ4美 นี้แล้ว จะกลายเป็น 美人ที่สวยจากภายใน ใครเข้ามาสัมผัสก็หลงใหล

แม้จะช้าไปนิด แต่ก็happy valentine day ค่ะ  



2015年2月9日月曜日

「5」秋になると、紅葉を見に行きましょうか。(2)

สวัสดีค่ะ มาตามคำสัญญา แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เก๋ๆ สำหรับฤดูใบไม้ร่วง

ขอเสนอ東福寺(とうふくじ)ค่ะ เป็นวัดที่อยู่ในจังหวัดเกียวโต สามรถเดินทางได้ด้วยรถไฟJR
ขอบอกว่า มัน สวย สวย สวย และสวย มากๆค่ะ


หากใครได้แวะไปเกียวโต เที่ยววัดดังทั้งหลายแล้ว อย่าลืมมาเที่ยววัดนี้นะคะ เริ่ดมากๆค่ะ ขอบอก

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ยังค่ะยัง ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้สำหรับ 紅葉 เคยสังเกตมั้ยคะว่า 「紅」มันแปลว่าอะไร ใบไม้แดงทำไมถึงไม่เรียกว่า 「赤」แล้วที่เห็นในภาพมันมีสีเหลืองด้วยนี่นา เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ ทำไมละ

คำตอบก็คือ 「紅」นอกจากอ่านว่า こう แล้ว ยังอ่านว่า あか、くれない、べに ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่แปลว่า สีแดงค่ะ

ส่วนใบไม้สีเหลืองนั้น ก็อ่านว่า こうようเหมือนกันนะคะ แต่ใช้คันจิ 黄葉 ค่ะ  ตัว「黄」ก็คือ きいろい ที่แปลว่า สีเหลืองนั่นเองค่ะ

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ ไปเที่ยวสนุกๆ ก็กลับมาพร้อมกับความรู้เสมอค่ะ :)บทความหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนต่อ อย่าลืมติดตามนะคะ
สวัสดีค่ะ

2015年2月8日日曜日

「4」秋になると、紅葉を見に行きましょうか。(1)

ถ้าเริ่มเข้าสู้ฤดูใบไม้ร่วงแล้วละก็...สิ่งที่พลาดไม่ได้ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นเอง นั่นก็คือ เที่ยวชมดอกไม้เปลี่ยนสีตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วที่ไหนละ ที่มันไปแล้วฟินสุดๆ วันนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆค่ะ

แต่ แต่ แต่ แต่ เราจะมาบันเทิงอย่างเดียวไม่ได้ เดี๋ยวไม่ได้คะแนน ต้องสอดแทรกความรู้เข้าไปบ้าง
เคยสงสัยกันบ้างรึป่าวคะ ว่า คันจิตัวนี้นั้น 「紅葉」อ่านออกเสียงว่าอะไร

แน่นอนค่ะ เวลาชวนใครไปชมดอกไม้แดง ก็จะชวนว่า 紅葉(こうよう)を見に行こうか?

หากใครเคยไปเที่ยวฮิโรชิม่า น่าจะเคยทานขนมชื่อดัง 紅葉まんじゅう(もみじまんじゅう)


 อ้าว อ้าว อ้าว ทำไมคันจิตัวเดียว มันอ่านไม่เหมือนกัน ความหมายก็เหมือนกัน เอ๊ะ แล้วมันต่างกันยังไง

紅葉 こうようตัวนี้ หมายถึงใบไม้เปลี่ยนสีที่เปลี่ยนเป็นสีแดงของไม้ยืนต้น ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เราเห็นนี่แหละค่ะ เรียกกันว่า こうよう
紅葉 もみじ ตัวนี้ หมายถึง ใบไม้カエデในฤดูใบไม้ร่วงที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดง

สรุปสั้นๆ(ข้างบนก็สั้นอยู่แล้ว) ก็คือ หากเราพูดถึงこうようจะเห็นเป็นต้นไม้ในที่กว้าง ที่มีใบไม้แดงตกสวยๆกลางถนน   แต่หากเราพูดถึง もみじ ก็จะเจาะจงลงไปเฉพาะใบไม้カエデที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

ดังนั้น 紅葉まんじゅう มีลักษณะเป็นรูปใบไม้ カエデ ก็เลยเรียกว่า もみじ นั่นเองค่ะ

หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจว่ามันต่างกันยังไง หากใครมีโอกาสไปเที่ยวฮิโรชิมา ก็อย่าลืมอุดหนุน もみじまんじゅうนะคะ อร่อยมากๆค่ะ

ครั้งนี้ขอเอาไว้เท่านี้ก่อน (เอ๊ะ ไหนๆๆ สถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ) ผู้เขียนคิดว่า หากอัพยาวไป ผู้อ่านจะตัดสินใจเปลี่ยนไปอ่านblog คนอื่นแทน สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ขอเป็นบทความหน้านะคะ อิอิ

สวัสดีค่ะ

2015年2月4日水曜日

「3」ただいま発車します!(2)

ただいま発車します!(2)
 
เรื่อง ความเร็วของรถไฟค่ะ

รถไฟแต่ละขบวนหลังจากที่กล่าวไปครั้งที่แล้วคือ มีธรรมดา เร็ว เร็วมาก เร็วมากๆ เร็วมากๆๆ 
ตอนแรกที่มิ้นเจอก็งงค่ะว่า คันจิมันก็เหมือนๆกัน แปลว่าเร็วเหมือนกัน แล้วอันไหนเร็วกว่ากัน เอ๊ะๆๆ

จะถามใครก็ไม่ได้ พอเปิดปากพูดก็ได้แต่ えー えーと あのう なんか なんか ตามสไตล์เด็กอักษรเอกญี่ปุ่น ก็เลยลองค้นคว้าดูค่ะ สรุปคร่าวๆได้ว่า


準急(じゅんきゅう)Semi-express กึ่งเร่งด่วน

(じゅん) ตัวนี้มาจากคำว่า 準備(じゅんび)หมายถึง เตรียมตัว
(きゅう) ตัวนี้มาจาก 急ぐ(いそぐ)หมายถึงเร่งรีบ 

เตรียมตัวจะรีบ เตรียมตัวจะเร็ว สรุปคร่าวๆได้ว่า รีบนิดนึงละกัน กึ่งๆรีบ


快速 (かいそく)  Express ด่วน

(かい)หมายถึง พึงพอใจ
(そく)หมายถึง 速やか เร่งด่วน


เร่งด่วนในระดับที่พึงพอใจ อ๊ะๆ เร็วขึ้นมาอีกระดับนึง 


 快速急行 (かいそくきゅうこう) Rapid Express 

 快速 (かいそく)  หมายถึง Express ด่วน
 急行 (きゅうこう)หมายถึง moving at high speed ดูจากภาษาอังกฤษ มันก็ด่วน..ขนาดนี้

พอเอาสองคำมารวมกัน วิ่งด้วยความเร็วด่วนแบบ high speed  เอ๊ะ มันด่วนยังไง ต้องลองไปนั่งดูค่ะ


通勤特急 (つうきんとっきゅう)Commuters limited express

 通勤 (つうきん)หมายถึง การไปทำงาน
特急 (とっきゅう) หมายถึง ด่วนพิเศษ 

เอาเข้าไปค่ะ มีด่วนด้วยความเร็วสูง แล้วยังมีด่วนพิเศษ แล้วชนิดนี้ยังเป็นด่วนพิเศษสำหรับคนไปทำงานอีกนะคะ เก๋น่าดู

特急 (とっきゅう)Limited express

  (とく) หมายถึง พิเศษ
 (きゅう) หมายถึง เร่งรีบ

แปลง่ายๆตรงตัวเลยก็คือ ด่วนพิเศษอย่างเร่งรีบ อะไรที่แปลว่าเร็ว เอามารวมอยู่ในคำนี้ให้หมดเลยค่ะ

เร็วไม่รู้จะเร็วยังไง ด่วนมากๆค่ะ หลับไม่ได้นะคะ เดี๋ยวเลยสถานี ^_^” 

「2」LANG8 の内省



บทความที่2 
研究の内省

จากการเขียน自分の研究ลงในLANG8 มีคนญี่ปุ่นใจดีตรวจไวยากรณ์ให้ทั้งหมด 3 คนค่ะ


こんにちは。

私は日本の社会に興味を持っています。今は日本人の学生の就職活動について研究しています。日本とタイの就職活動は全く違います。非常に面白いと思います。
例えば、日本は4回生から会社に説明会に参加します。面接も3−4回をうけます。
一方、タイは大学を卒業してから、就職を始めます。

よろしければ、書き直していただけませんか。
ありがとうございました。

มีไวยากรณ์ที่ถูกแก้ ดังนี้



ปกติแล้วจะใช้คำว่า 「今」ตลอดเวลาเลยค่ะ น้อยครั้งมากที่จะใช้ 「現在」หากใช้คำนี้มักเขียนในรายงานหรือวิชาการเขียนมากกว่า พอโดนแก้มาแบบนี้ก็นึกขึ้นได้ว่า ใช้แต่今มาตั้งแต่เริ่มเรียน ต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปใช้ 現在 บ้างค่ะ ดูโปรขึ้นมานิดนึง



 เนื่องจากภาษาไทย มักเรียงประโยคด้วย ประธาน  กริยา กรรม จึงทำให้ตัวผู้เขียนนั้น มักเริ่มต้นด้วยโครงสร้างประโยคแบบนี้ตลอด พอโดนแก้ให้เขียน その違い ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า หากอ่านงานภาษาญี่ปุ่นในหลายๆเรื่องแล้ว มักหยิบTopic ที่จะพูดขึ้นมาก่อน แล้วค่อยตามด้วยความเห็นว่า มีความเห็นเป็นอย่างไร

อีกหนึ่งที่คือ 何〜と思います。พอแก้เป็น何〜ことです。ภาษาญี่ปุ่นดูโปรขึ้นมาทันที ต่อจากนี้ จะเก็บไปใช้บ้างค่ะ มีประโยขน์มากๆ


 คำช่วย助詞 เป็นปัญหาโลกแตกสำหรับผู้เขียน ใช้ยังไงก็ผิดตลอด ยังแยกไม่ค่อยออก ทั้งๆที่ควรจะเป็นเรื่องแรกๆที่ควรแม่นได้แล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายก็ยังผิดอยู่ดี ตามรูปที่แก้มา เห็นได้เลยว่า会社の説明会 คำนามสองตัวต่อกัน ควรจะใช้คำช่วย の เชื่อม และแปลว่า การบรรยายของบริษัท ตอนที่ใช้にนั้น เนื่องจากแปลว่า การบรรยายที่บริษัท

 อันนี้ค่อนข้างงงนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากประโยคน่าจะมีคำช่วยをเพื่อบอกว่ากริยานั้นแสดงอะไร


 ส่วนสุดท้ายที่โดนแก้คือ คำช่วยอีกตามเคย タイでは พออ่านแล้วรู้เลยค่ะว่า เค้าต้องการให้เราเน้นว่า ไทยไม่เหมือนกับญี่ปุ่น ส่วน就職 จะใช้แค่คำนี้ไม่ได้ ต้องเอามาให้ครบเป็น 就職活動 หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็น 就活 ไปเลย

FEEDBACK จากคนญี่ปุ่น

จากคุณ yuyu

 略して’就活’と呼ぶことが多いです^^

おもしろい研究内容ですね^^
私はタイに興味があるので、色々知りたいです!
よろしくおねがいします!

จากคุณ racco
よい研究ができるといいですね。
สู้ๆ

พออ่านFEEDBACK  แล้ว มีการให้กำลังใจด้วย อ่านแล้วดีใจค่ะ ถึงเป็นการให้กำลังใจ ใช้คำพูดธรรมดาก็เถอะ แต่รู้ว่า เค้าตั้งใจแก้ให้เราจริงๆ ไม่ใช่แก้เพื่อปั่น point

ขอบคุณค่ะ