2015年5月4日月曜日

「22」 禁止サイン

สวัสดีค่ะ กลับมาเจอกันอีกแล้ว หลายคนคงจะอ่านหนังสือสอบกันอยู่ หรือบางคนอาจจะปิดเทอมแล้ว
ขอให้พักผ่อนให้เต็มที่ เที่ยวให้สนุกก่อนเปิดเทอมนะคะ

วันนี้ จะมาแนะนำเกี่ยวกับ ป้ายห้าม ที่มักพบเจอตามสถานที่ท่องเที่ยว บางทีเห็นรูปก็เข้าใจได้ทันทีว่า มันหมายถึงอะไร แต่บางครั้งก็นึกกันไม่ออกใช่มั้ยคะว่า เอ๊ะ มันใช้คำศัพท์คำว่าอะไร

ไม่รีรอช้า มาเริ่มดูกันเลยดีกว่าค่ะ


通り抜け禁止 


ห้ามเดินผ่าน หากใครได้อ่านบทความเรื่อง ซากุระก่อนหน้านี้้ คงคุ้นๆคำ 「桜通り抜け」 มีความหมายว่าเดินผ่านค่ะ หากไปเที่ยวแล้วเจอสัญลักษณ์นี้ ก็อย่าเดินผ่านเข้าไปนะคะ

駐車禁止

เห็นแล้วรู้ทันที มันมาจากคำที่เราคุ้นเคยกันอยู่แล้ว 「駐車場」 ที่แปลว่าที่จอดรถ เติม禁止เข้าไป ก็หมายถึงห้ามจอดรถนั่นเอง (คำนี้ง่ายมากๆค่ะ)


花火禁止 

คำนี้อาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันซักเท่าไหร่ แค่ที่ญี่ปุ่นมักมีติดอยู่ตามสวนสาธารณะ(เท่าที่ผู้เขียนเคยพบเห็นมา) เพราะมักมีนักเรียนมัธยมปลายกลุ่มใหญ่ๆออกมาเล่นดอกไม้ไฟกันตอนกลางคืน 

 飲食禁止

 ห้ามกิน ห้ามดื่ม อันนี้เจอบ่อยมากๆค่ะ ตอนแรกๆคิดว่า อาจจะเป็น 食べ物 飲み物 
แล้วเติมด้วย 禁止 ซะอีก

 立人禁止 


ห้ามเข้า  เห็นคันจิก็คงจะเข้าใจได้ว่า ห้ามคนเข้าไปยืนอยู่ในนั้น แปลกดีที่เอาคันจิสองตัวนี้มรวมกันได้


撮影禁止


อันนี้แน่นอนว่าเจอบ่อยมากๆ ส่วนใหญ่มักพบในพิพิธภัณฑ์  อย่าไปเผลอใช้คำว่า撮るเฉยๆนะคะ

________________________

 内省

 ป้ายห้ามที่เจอตามสถานที่ท่องเที่ยว สำหรับตัวผู้เขียนแล้ว คิดว่าเป็นคำง่ายๆที่เพื่อนๆคงเจอ และอ่านออก เป็นคำง่ายๆสำหรับภาษาญี่ปุ่นชั้นต้น แต่รู้มั้ยคะว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ได้พานายญี่ปุ่นที่ไปเที่ยว พอนายเห็นป้ายต่างๆ แล้วก็ถามขึ้นมาว่า เมืองไทยไม่ค่อยมีป้ายห้ามติดตามที่ต่างๆเลยเนอะ ไม่เหมือนญี่ปุ่นเลย ไม่ว่าจะที่ไหนๆ ก็มีติดเตือนไว้หมด

เท่านั้นเอง ผู้เขียนก็คิดไอเดียขึ้นมาว่า เอ๊ะ แล้วป้ายบอกห้ามเนี่ย ภาษาญี่ปุ่นมันใช้คำว่าอะไร ติดอยู่ที่ปาก แต่นึกไม่ออก พอกลับมาค้นหาดูก็ อ๋อออ บางทีคำง่ายๆ เห็นบ่อยๆ แต่ไม่สามารถoutput ออกมาได้ทันที แม้จะอ่านออก เข้าใจ แต่ก็เขียนออกมาเป็นคันจิไม่ได้อยู่ดี 

การพานายญี่ปุ่นเที่ยวในครั้งนี้ ทำให้นึกถึงการเรียนรู้อีกแบบหนึ่ง สิ่งที่เราพบเห็นในชีวิตประจำวัน บางทีทำไมเราไม่สามารถ output  ออกมาได้ท้นทีนะ อาจเป็นเพราะขาดการสังเกต และคิดว่าไม่สำคัญนั่นเอง ต่อจากนี้คงเริ่มรู้จักสังเกตให้มากขึ้น อะไรที่คิดว่าง่าย มันง่ายจริงๆ แต่ไม่สามารถoutputออกมาได้ ก็เหมือนเราไม่ได้รับรู้ความรู้นั้่นอย่างแท้จริง

2015年4月27日月曜日

「21」電車の世界

สวัสดีค่ะ  อัพบล็อคครั้งแรก ได้กล่าวเรื่องรถไฟไปบ้างแล้ว

ในวันนี้ จะมากล่าวถึง รถไฟอีกรอบ เวลาเดินทางในญี่ปุ่น คงปฎิเสธไม่ได้ว่า ต้องใช้รถไฟเป็นยานพาหนะ แล้วส่วนต่างๆของรถไฟนั้น ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่าอะไรบ้าง

漢語 ในวันนี้ ขอเสนอคำศัพท์น่ารู้เกี่ยวกับ รถไฟค่ะ

優先座席(ゆうせんざせき) 
มักอยู่ติดประตูค่ะ เห็นป้ายนี้เมื่อไหร่อย่าเผลอไปนั่งนะคะ เพราะเป็นที่สำหรับ ผู้พิการ แม่และเด็ก คนท้อง และผู้สูงอายุค่ะ สังเกตมั้ยคะว่า ไม่มีเด็ก แต่เมืองไทยมักเขียนบอกว่า ให้ที่นั่งสำหรับเด็กและสตรี




ราวจับข้างบน เรียกว่า つり靴 ค่ะ

เสาตรงกลางที่เอาไว้ยืนจับกัน เรียกว่า 鉄棒(てつぼう)ค่ะ






 
ส่วนที่วางของข้างบน เรียกว่า 手荷物棚 ค่่ะ


待合室(まちあいしつ) 
ห้องนั่งรอตามชานชาลาค่ะ หน้าร้อนก็เปิดแอร์ หน้าหนาวก็เปิดฮีทเตอร์ให้
สะดวกสบายมากๆเลยค่ะ จะเห็นได้ทั่วไปตามชานชาลาค่ะ

วันนี้เป็นเนื้อหาเบาๆ แต่หวังว่าจะได้นำคำเหล่านี้ใช้อธิบายในการเล่าเรื่องต่างๆได้นะคะ คำศัพท์ง่ายๆ แต่บางทีก็นึกไม่ออกใช่มั้ยคะว่า มันเรียกว่าอะไรกันนะ

2015年4月20日月曜日

「19」 ゴミの分別

สวัสดีค่ะ เวลาเดินทางเที่ยว ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็ต้องทิ้งขยะใช่มั้ยคะ

แล้วเวลาเที่ยวญี่ปุ่นเนี่ยยยย ต้องพึงระลึกอยู่เสมอว่า ต้องแยกขยะก่อนทิ้ง หากใครเคยเดินทางด้วยทางด่วนของญี่ปุ่น จะต้องแวะที่จุดพักรถแน่นอน แล้วจะต้องตะลึงถึง ถังขยะที่แยกเรียงกันเป็นแถวยาว อะไรเป็นอะไรบ้าง อ่านก็ไม่ออก ชั้นจะรู้หรอออ

วันนี้ขอนำเสนอ 漢語 ที่เกี่ยวกับการแยกขยะ เผื่อเวลาไปเที่ยวที่ไหนแล้วจะทิ้งขยะ สังเกต และทิ้งให้ถูกกันซักนิด  แม้ว่าแต่ละพื้นที่นั้น จะมีประเภทของขยะไม่เหมือนกันก็ตาม แต่ก็ไม่ต่างกันมาก

 資源ごみ(しげん) 
หรือที่เรารู้จักกันว่า ขยะรีไซเคิลนั่นเองค่ะ หากเจอคันจิตัวนี้ก็ไม่ต้องตกใจนะคะ

金属類(きんぞくるい) 
ขยะจำพวกเหล็ก ทุกอย่างที่มีเหล็กเป็นส่วนประกอบ เคยได้ยินว่า หากเป็นชิ้นใหญ่
 ต้องจ่ายเงินค่าเก็บด้วย ทั้งๆที่เป็นของที่ไม่ใช้แล้วแท้ๆ

乾電池(かんでんち)
ขยะจำพวก ไฟฉาย ทั้งหลาย ทุกขนาด ทุกแบบ

理立ごみ(うめたてごみ) 
ขยะจำพวกแก้ว ชาม หรือวัสดุที่เป็นแก้ว หลอดไฟ กระถางต้นไม้ แจกัน ได้หมดค่ะ

ไม่ว่าจะที่ญี่ปุ่นหรือที่ไหนก็ตาม การฝึกทิ้งขยะให้ถูกต้องติดเป็นนิสัย เป็นเรื่องดีนะคะ 



2015年4月13日月曜日

「18」10代の妊娠望まない若者 อันเป็นที่รัก (2)

สวัสดีค่ะ รายงานอันเป็นที่รัก ยังไม่จบค่ะ แต่หวังว่าคำศัพท์เล็กๆน้อยๆ จะมีประโยชน์ เก็บเอาไปทำรายงานได้บ้างนะคะ

ในเมื่อเราทนทุกข์ทรมาน กับรายงานเจ้าปัญหาไปแล้ว มาขอพรให้คะแนนออกมาดีๆกันดีกว่า ใกล้สอบกันแล้วด้วย สัปดาห์นี้ ขอเสนอ ศาลเจ้า(อีกแล้ววววว) ที่มีชื่อเสียงโด่งดังเรื่องการเรียนกันดีกว่าค่ะ เป็นเด็กดี น้องจากไม่ท้องก่อนวัยอันควรแล้ว ต้องใส่ใจในการเรียนด้วยค่ะ(ใช้ทั้งสมองและไสยศาสตร์ ให้อาจารย์ให้คะแนนเราเยอะๆ)

ศาลเจ้าที่โด่งดังและมีชื่อเสียเรื่องการเรียน คือ 太宰府天満宮(だざいふてんまんぐう) ตั้งอยู่ที่จังหวัดฟุกุโอกะ บนเกาะคิวชูค่ะ ผู้เขียนเคยไปมาแล้ว สวยงามแงะมากค่ะ โดยเฉพาะスタバเลิฟมากๆ


 ศาลเจ้า太宰府

ได้รับรางวัล สาขาที่สวยที่สุดอันดับสามของโ่ลกเลยค่ะ starbuckสาขานี้ เริ่ดไปเลย

แต่เคยสงสัยมั้ยคะ ว่าทำไม ภาษาไทย เราเรียก ศาลเจ้า แล้วทำไม ภาษาญี่ปุ่น บ้างก็เป็น 神社 天満宮

เวลาไปเที่ยวก็เกิดความสงสัยขึ้นมา มันคืออะไร แล้วทำไมใช้คำศัพท์ต่างกัน วันนี้จะมาไขข้อสงสัยให้ตัวเอง และคนที่กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันค่ะ

天満宮 (てんまんぐう) คือ ประเภทหนึ่งของศาลเจ้าค่ะ เชื่อกันว่า菅原道真公(すがわら の みちざね)ขุนนางในสมัยเฮอัน เป็นที่เลื่องลือชื่อด้านปราชญ์ กล่าวคือ เป็นบุคคลผู้มีความรู้ความสามารถนั่นเองค่ะ ศาลเจ้าที่มีต่อท้ายด้วย 天満宮 นั้นจะหมายถึง ศาลเจ้าที่เซ่นไหว้ บวงสรวง菅原道真公 ค่ะ เพื่อให้เป็นสิริมงคล และขอพรเรื่องการเรียน

พออ่านปุ๊ปป อ๋อออปัํป ก็ว่าอยู่ ทำไมศาลเจ้าที่ลงท้ายด้วย天満宮 มักโด่งดังในเรื่องการเรียน ทั้งศาลเจ้า 北野天満宮(きたのてんまんぐう)ในเกียวโตก็เช่นเดียวกัน ใครจะไปขอพรให้สอบติด สอบผ่าน ก็ล้วนแต่ไปที่นี่กัน แล้วก็ต่อแถวลูบเขา ลูบหัว วัวกันใหญ่ จนหัววัว เขาวัว เงาวับเชียว

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้ ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวไหน จะทุกข์จากงานวิชาอะไรมา คอยติดตามกันนะคะ

สุขสันต์วันสงกรานต์ค่ะ



2015年4月8日水曜日

「17」 10代の妊娠望まない若者 อันเป็นที่รัก (1)

สวัสดีค่ะ

ในช่วงนี้หลายคนคงห่างหายไปนานจากการอัพบล็อค เนื่องจากว่า กำลังทุกข์กับอะไรบางอย่าง บางคนก็ทุกข์จาก 日本史 บางคนก็ทุกข์จาก JAP CON แต่ตัวผู้เขียนเอง ทุกข์จากรายงานเรื่อง

”10代の妊娠望まない若者” ได้ยินแค่ชื่อก็หลอนแล้ว คงไม่ต้องอธิบายกันมากมายว่า มันทุกข์ยังไง

เห็นหน้ากันทุกวัน จนเกิดไอเดีย ขึ้นมาว่า ไอคำว่า ”妊娠” พอกดค้นหาจาก論文 แล้ว ยังมีคำศัพท์ที่แตกแขนงออกไปเยอะมากๆ คำศัพท์เหล่านั้น ก็เอามาเขียนได้ในรายงานได้ด้วย หากใครแวะเวียนผ่านเข้ามา หวังว่า จะได้นำคำศัพท์เหล่านี้ไปใช้ได้บ้างนะคะ



คำศัพท์ที่เจอบ่อยๆใน論文

避妊(ひにん) หมายถึง การคุมกำเนิด (เชื่อว่าใครหลายคนอาจจะใช้คำว่า 妊娠防止(にんしんぼうし)อยู่หรือเปล่า สามารถเปลี่ยนมาใช้คำนี้แทนได้ค่ะ)

中絶する(ちゅうぜつ) หมายถึง ทำแท้ง (ตอนแรกเปิดดิกดูเจอคำว่า 流産(りゅうざん)ก็แปลว่าท้องเหมือนกันค่ะ แต่ในรงบุน เห็นแต่ใช้คำว่า 中絶มากกว่า)

性交(せいこう) หมายถึง การมีเพศสัมพันธ์ุ (คิดว่าหลายคนใช้คะตะคะนะซะส่วนใหญ่ ในรงบุนบางฉบับก็ใช้คะตะคะนะ ตรงตัวเหมือนกันค่ะ แต่ก็มีบางฉบับที่ใช้เป็นคันจิ ยังไงก็ลองเลือกเอาละกันค่ะ ว่าอยากใช้แบบไหน

性教育(せいきょういく) หมายถึง เพศศึกษา ตรงตัวเลยค่ะ (ตอนแรกค้นแต่คำว่า 教育เฉยๆ ผลที่ออกมายังใช่ข้อมูลที่ชัดเจนนัก เนื่องจากเป็นคำที่กว้างไป พอไปเจอคำนี้ เลยลองค้นดู ปรากฎว่าเป็นประโยชน์มากๆเลยค่ะ ข้อมูลออกมาเยอะมากๆ

วันนี้เอาไปแค่นี้ก่อน  i+4 ไม่รู้ว่าเยอะไปรึป่าว แต่สำหรับบางคนอาจจะเป็นเพียงแค่ i+1ก็เป็นได้

内省

การทำรายงานในครั้งนี้ทำให้ตระหนักได้ว่า การเพิ่มคลังความรู้เรื่อง 漢語 เป็นสิ่งสำคัญ คำศัพท์บางคำ เมื่อsearch แล้ว ผลที่ออกมา ข้อมูลน้อย เนื่องจากใช้คำผิด หรือเป็นคำที่ไม่ใช้กัน หากมีความรู้เรื่องคำศัพท์มากขึ้น หรือหัดสังเกตจาก ข้อมูลที่หามาได้ แล้วใช้ keywordจากข้อมูลนั้น ค้นหาต่อไป จะสามารถได้ข้อมูลที่ต้องการ และเป็นประโยชน์มากขึ้น  ได้เรียนรู้มากขึ้น ฝึกอ่าน ฝึกscaning skiming ได้ด้วย



2015年3月30日月曜日

「16」桜通り抜けの「通」VS 「痛」

สวัสดีค่ะ เริ่มเข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว อากาศที่ญี่ปุ่นคงค่อยๆอบอุ่นขึ้น ผิดกับไทยที่ร้อนตับแลบ

หากพูดถึงฤดูใบไม้ผลิ ก็ต้องนึกถึง桜เป็นธรรมดาอยู่แล้ว แล้ว桜เนี่ย เราจะไปดูได้ที่ไหนบ้างในญี่ปุ่น

ตอบได้เลยว่า ไม่ว่าจะเดินไปที่ไหน ก็เห็นได้หมด ยิ่งสวนสาธารณะ หรือว่านั่งรถไฟ สองข้างทางล้วนแต่เป็นต้น桜 ยิ่งในวัด ศาลเจ้า ริมแม่น้ำ โอ้โห ถ่ายรูปกันมันส์ไปเลย

แต่วันนี้จะขอนำเสนอสถานที่นี้ค่ะ โรงกษาปณ์ที่จังหวัด โอซาก้า ที่ผู้เขียนไปมาแล้วประทับใจมาก ในทุกปี จะมีเทศกาลที่เรียกว่า 桜通り抜け จะเปิดให้เข้าชมฟรี ในงานจะมีต้น桜หลากหลายสี หลากหลายพันธุ์ และจะมีซุ้มขายของที่ระลึกด้วย ชมตึกที่ออกแบบมาอย่างสวยงาม พร้อมดอกซากุระหลากหลายสี ริมแม่น้ำ เด็ดมั้ยละคะ ไปครั้งเดียว ได้รูปกลับมาเป็นร้อย
ภาพตอนกลางคืน เดินชม屋台 ท่ามกลางต้น桜


ภาพตอนกลางวัน ยามกลีบดอก​ 桜 ร่วงโรย สวยมากๆค่ะ

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
แต่เคยสังเกตคำว่า 通り(とおり)มั้ยคะว่า มันสามารถอ่านได้อีกเสียงหนึ่งคือ 通(つう)

ในวิชา JAP READ  ผู้เขียนอ่านผ่านๆแล้วดันไปเจอตัว 「痛(つう)」 เอ๊ะ つうเหมือนกัน ตอนแรกงงว่า หรือว่าชั้นอ่านผิดรึป่าว คุ้นๆ เรียนมานาน เริ่มคืนอาจารย์ไปหมดแล้ว เลยมาเปิด辞書ดู อ่อๆๆ มันอ่านเหมือนกัน เลยได้ไอเดียมาเขียนบทความเกี่ยวกับ「通」และ「痛」 ค่ะ

通院(つういん)診療を受けるために病院に通うこと。สองตัวเอามารวมกันจากที่จะบอกว่า ฉันจะไปโรงพยาบาล เป็นประโยคยาวๆ ก็สามารถมาใช้คำนี้ได้ค่ะ

通運(つううん)貨物運送のこと(通運事業) ขนส่งสินค้า อันนี้ถ้าหากไปตามห้างก็สามารถเห็นได้ค่ะ เห็นบ่อยๆ เลยเอามาบอกต่อ

痛飲(つういん)大いに酒に飲むこと。ดื่มหนักๆ จากใช้いっぱい飲んだ หันมาใช้คำนี้กันดีกว่า 
痛感(つうかん)ひどくある事を感じる เจ็บใจ เจ็บจนฝังใจ 

内省

มีนักเรียนแลกเปลี่ยนญี่ปุ่น มาถามว่า นี่สินะเรียกว่าฝังใจวัยเด็ก แปลเป็นญี่ปุ่นว่าอะไร...ถามยากไปนะ ฝังใจ ใช้คำว่าอะไร ภาษาอังกฤษยังนึกไม่ออกเลยจ้า เลยลองหาดูหลายๆคำ ค้นไปค้นมา 痛感 กับ 心に刻む ค้นไปค้นมา สรุปนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้บอกว่า น่าจะใช้思い出すดีกว่า ตึ่ง...... หาตั้งนาน 

จากการสนทนากับนักเรียนแลกเปลี่ยนคนนี้ ทำให้รู้ว่าบางทีคิดอะไรตื้นๆก่อนก็ดี ใช้คำง่ายๆไปก่อน หากหาคำยากๆแต่ใช้แล้วความหมายแปลกๆก็อย่าใช้เลยดีกว่า 

2015年3月28日土曜日

「15」 NEW ME_STORYTELLING3

はい、始めましょう。(はい)ホテルのロビーでソファーに座っているお父さんと息子さんがいますね。(はい)(えっと)多分チェックアウトをしているお母さんを待っていそうです。ソファーの左側に眼鏡をかけているお父さんはを読んでいます。右側にスーツを着ている息子さんは何もしない状態でロビーの周りをぼーと見回りをしています。で、えーと。。。柱に背中をかかっている外国人みたいな人と偶然に目があってしまった。(えー)最初は外国人かどうかまだわからないだけど、はっきり見ると、地図も広げているし、首にカメラもかけているし、日本語をわからなさそうと思っています。(うん)外国人は息子さんを見ると、嬉しい顔をして、急に息子さんの方で向かっていますね。でどうになると思いますか?(へーどうになるの?)息子さんはすごくびっくりしました。「どうしよう!俺英語しゃべれないよ。しかも、地図を読めないよ」心の中に言いますね。(はい)その後、新聞を読んでいるお父さんを見ると、新聞の陰で隠したいと思って、ですぐにお父さんのとなりに近くに移動して、新聞の陰を隠してしまった。(面白いね)

内省
1. อ่านมาหลายรอบแล้ว เริ่มจำได้แล้วว่าเรื่องเป็นยังไง และสามารถบอกรายละเอียดได้มากขึ้น เพิ่มเติมเนื้อเรื่องให้มากกว่าเดิม เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจง่าย 
2.สังเกตตัวเองได้ชัดเจนว่าเริ่มให้คำวิเศษณ์ จากที่ครั้งแรกไม่ได้ใช้เลยแม้แต่คำเดียว เช่น  はっきり、偶然、เป็นต้น ทำให้สามารถบอกได้ว่า เหตุการณ์นั้นและอากัปกิริยานั้น มีสภาพอย่างไร แต่ก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร
3.ก่อนที่จะทำนั้น ได้เรียนรู้เพิ่มขึ้นว่า ควรจะใช้ねมากขึ้น แต่พอพูดจริงๆก็กลัวว่าจะใช้มากไป และไม่รู้ว่าหากใช้ไปแล้ว จะกลายเป็นฟุ่มเฟือยเกินไปหรือเปล่า หรือว่า ใช้ไม่ตรงจุดประสงค์ เลยกังวลเล็กน้อยเวลาเล่าจะฟังดูไม่เป็นธรรมชาติ เหมือนเจาะจงว่า ชั้นต้องพูดนะ
4.ครั้งที่สองไม่เห็นภาพ เลยบรรยายตามที่จำได พอครั้งนี้เห็นภาพไปด้วย บรรยายไปด้วย เห็นได้ชัดเจนว่า พูดช้าลง และคิดก่อนว่า จะเริ่มบรรยายจากตรงไหนดี แม้จะทำมาสองรอบแล้ว แต่ก็เริ่มคำนึงถึงรายละเอียดมากขึ้น อยากจะเล่าให้ละเอียดกว่าเดิม แต่ข้อเสียคือ จะนึกถึงประโยคที่คนญี่ปุ่นใช้อยู่ดี เลียนแบบประโยคมาหมดเลย ไม่ได้แต่งขึ้นเอง เพราะกลัวผิด แล้วความหมายเปลี่ยน
5.ในฐานะเป็นผู้ฟัง จะพยายามหาเวลาแทรกあいづちอยู่ตลอดเวลา พอผู้พูดพูดจบประโยคปุ๊ป จะพูดขึ้นทันที เพื่อให้มีあいづちเยอะ แต่ก็กังวลนิดนึงว่า ถ้าเกิดเจอในสถานการณ์จริงๆแล้ว มีคำพวกนี้เยอะๆแล้ว คนญี่ปุ่นจะรำคาญหรือเปล่า ว่าอะไรจะแทรกชั้นเยอะขนาดนี้ และคำที่ใช้ก็จะซ้ำกันไปเรื่อยๆ 
6.เลิกใช้そしてแล้วค่ะ ไม่หลุดออกมาเลยซักครั้ง พอรู้ว่าอันนี้ใช้ผิด ตอนนี้สามารถตัดมันออกไปได้แล้ว หันมาใช้ で、それで、そのあとแทน 
______________________________________

แต่หลังจากที่เรียนคาบต่อมา ได้มีการถกเถียงเรื่อง それで ว่า ไม่ใช่ว่าไม่ใช้เลย แต่ว่าใช้น้อยมาก ตอนแรกก็เข้าใจผิดว่า มันต้องห้ามใช้เลย กลัวใช้แล้วจะไม่เป็นธรรมชาติ  ขอบพระคุณอาจารย์ที่ไขข้อข้องใจค่ะ

2015年3月22日日曜日

「14」八坂神社の「社」

สวัสดีค่ะ วันนี้จะพาไปเที่ยวศาลเจ้าค่ะ ศาลเจ้านี้ตั้งอยู่ที่จังหวัดเกียวโต หากใครผ่านแวะเวียนไปแถวนั้นสามารถลองเข้าไปไหว้ ขอพร ได้ค่ะ มีชื่อเสียงมากๆ รู้จักกันในนาม ศาลเจ้าครอบจักรวาล ขอพรเรื่องอะไรก็ได้ค่ะ และคนญี่ปุ่นส่วนใหญ่ มักไปศาลเจ้านี้ในวันขึ้นปีใหม่หรือที่เรียกกันว่า 初詣ด้วยค่ะ

วิธีการเดินทางไม่ยากค่ะ ลงรถไฟ ฮันคิว สถานี คะวะระมาจิ แล้วออกทางออกที่5 เลี้ยวขวา ตรงมาเรื่อยๆ เจอเลยค่ะ ง่ายมากๆ


八坂神社(やさかじんじゃ)แม้ว่าจะเป็นศาลเจ้าครอบจักรวาล แต่ก็มีชื่อเสียงด้านความรักเหมือนกันค่ะ จะมีおみぐじ ความรักโดยเฉพาะให้เสี่ยงทายด้วยค่ะ และมีบ่อน้ำผิวพรรณ เชื่อกันว่า หากไปใช้น้ำล้างหน้า ล้างผิวแล้ว ผิวจะเปล่งปลั่ง ผู้เขียนไปมาแล้วค่ะ คิดแล้วอยากจะกรอกน้ำกลับมาอาบน้ำเลย

美容水


__________________________


ที่มาของการอัพบล็อควันนี้ มาจากวิชาการเขียนค่ะ  jap write อันเป็นที่รักของเราทุกคน เขียน 自己PRแล้วโดนFB กลับมาว่า 「貴社」เอ๊ะ คำนี้คุ้นๆรึป่าวคะ ส่วนใหญ่เรามักเขียน 「会社」ใช่มั้ยคะ
ก่อนหน้านั้นผู้เขียนได้เรียนคำว่า 「貴社」มา แปลว่าบริษัทเหมือนกัน ดูหรูใช่มั้ยคะ ทั้งปีทั้งชาติ เขียนแต่ 「会社」มาตลอด พอรู้จัก「貴社」ปุ๊ป ก็ใช้เลยค่ะ ปรากฎว่า โดนFBกลับมาว่าใช้ไม่ได้ เลยเริ่มลองหาเหตุผลว่า ทำไมชั้นถึงใช้ไม่ได้ล่ะ

「会社」(かいしゃ)แปลว่า บริษัท คำพื้นๆ ไม่ว่าจะบริษัทเค้า บริษัทเรา ใช้ได้หมดค่ะ
「貴社」(きしゃ)แปลว่า บริษัท เหมือนกันค่ะ แต่ หมายถึงบริษัททางเราค่ะ
 ในเนื้อความผู้เขียนใช้ 貴社から単語を300個もらいました。ซึ่งผู้อ่าน ก็เป็นบริษัทเหมือนกัน จึงไม่สามารถใช้คำนี้ได้ ถ้าใช้จะหมายความว่า ทางผู้เขียน ได้รับคำศัพท์300คำจากบริษัทคนที่กำลังอ่าน自己PRอยู่ ซึ่งผิดความหมาย จาก 貴社 จึงต้องเปลี่ยนเป็น会社 ธรรมดาค่ะ แหม พอได้ทีจะใช้คำหรู ดันมาใช้ผิดความหมายซะนี่ T^T

ค้นไปค้นมา เจออีกคำค่ะ 「御社」(おんしゃ)แปลว่า บริษัทเหมือนกันค่ะ ซวยเลยทีนี้ เยอะเกิ๊น
御社 เหมือนกับ 貴社ค่ะ แต่ใช้เป็นภาษาพูดค่ะ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการสัมภาษณ์งานได้ค่ะ คำหรูๆ และรับรองว่า ถูกแน่นอนค่ะ

内省
ตอนแรกคิดแค่ว่า พยายามใช้คำใหม่ๆดีกว่า หากเรารู้จักนำคำใหม่ๆมาใช้แล้ว จะสามารถนำสิ่งที่เรียนออกมาoutput ได้ แต่กลับลืมนึกไปว่า คำบางคำดูหรูก็จริง แต่อาจมีความหมายแตกต่างออกไป ควรจะเช็คก่อนว่า มันหมายความว่าอะไร ใช้ได้เหมือนกันหรือเปล่า หากมองข้ามตรงนี้ไป ก็เหมือนเราไม่สามารถoutput ออกมาได้อย่างถูกต้องเช่นกัน ต่อไปจะระวัง และรอบคอบกว่านี้ค่ะ

2015年3月20日金曜日

「13」I SEE_STORYTELLING2

สวัสดีค่ะ บทความที่แล้วได้ลงเรื่อง story telling ไปแล้ว ครั้งนี้จะมาลงอีกรอบเพื่อบอกการพัฒนาของตนเองค่ะ

หลังจากที่ได้เล่าเรื่องรอบแรกไปแล้ว อาทิตย์ถัดมาในคาบเรียน ได้มีการเฉลย และแนะแนว ประโยคที่คนไทยต้องการจะพูดแต่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ รวมถึงจุดบกพร่องของคนไทย และได้เปรียบเทียบกับคนญี่ปุ่น

ซึ่ง ได้เห็นถึงความแตกต่างที่ชัดเจนมาก ครั้งนี้ จะนำstory tellingครั้งที่2 มาให้อ่านกันค่ะ

ホテルのロビーに新聞を読んでいるお父さんと息子さんがソファーに座っている。
ぼーとしている息子さんは偶然に外国人のおじさんと目が合っていた。おじさんはカメラを首からぶらさげ、地図を広げて、誰か助けてもらうかなと考えるみたいな顔をしている。息子はそう思ってから、自分が日本語しかしゃべれないので、心の中に「どうしよう」と思いながら、お父さんの方を見て、アイディアが出来た。お父さんと一緒に新聞を読んだら、おじさんは多分近寄らないかもしれない。それで、お父さんの隣に向かって新聞のかげに隠れてしまった。おじさんは息子さんの行動を見ると、「いやだなー」という意味が分かった。

内省
 ⒈จากข้อบกพร่องครั้งที่แล้ว คือ ไม่ได้บรรยายถึงสถานการณ์รอบตัว สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ครั้งนี้จึงปรับปรุงและบรรยายว่า รอบตัวนั้นเป็นอย่างไร อยู่ที่ไหน มีใครบ้าง  ครั้งนี้จึงบรรยายรายละเอียดไปมากขึ้น เริ่มจากที่โรงแรม ส่วนไหนของโรงแรม ก็คือ lobby 
 ⒉ครั้งแรกบอกแค่ว่า "ลุงคนที่หนึ่ง"  "ลุงคนที่สอง" แต่ครั้งในได้ใส่ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนเข้าไปเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น คือ คนที่อ่านหนังสือพิมพ์เป็นพ่อ และอีกคนเป็นลูก และนักท่องเที่ยวได้เพิ่มรายละเอียดลงไปว่า เค้าอยู่ที่ไหน และได้แขวนกล้องไว้ที่คอ รวมถึงเพิ่มคำว่า น่าจะพูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ เพื่อให้สามารถเล่าเรื่องในช่องต่อไปได้ราบรื่นขึ้น
 ⒊เนื่องจากได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่เคารพและ ตัวอย่างที่ดีจากคนญี่ปุ่น ได้นำสำนวนที่ตนเองสนใจมาบรรยายใหม่ เป็นเรื่องดีที่ได้เรียนรู้และเห็นตัวอย่างที่ดี และตัวอย่างที่ไม่ดี (ของตนเอง) และนำทั้งสองอย่างมาประยุกต์ใช้ใหม่ แต่ ข้อเสียคือ พอเห็นตัวอย่างว่า ประโยคนี้ดี น่าสนใจจึงทำให้ลอกประโยคมาทั้งดุ้นเลย บางประโยคแทบจะไม่ได้คิดเองใหม่เลย 
 ⒋ครั้งแรกจบประโยคแบบแห้งๆ ครั้งนี้ได้เติมคำเชื่อมเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้การบรรยายดูราบรื่นขึ้น
 ⒌คิดว่าครั้งนี้เล่าได้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น แต่ ก็ยังขาดอรรถรสอยู่ดี หวังว่าครั้งหน้าจะทำให้ดีขึ้น
 ⒍ ครั้งนี้ไม่ใช้คำว่า そして เนื่องจากคำเชื่อมคำนี้ นับว่าเป็นคำแรกๆเลยที่เรียนเพื่อใช้ในการเชื่อมประโยค ดังนั้น ไม่ว่าจะพูดหรือจะเขียน ก็มักใช้ そしてในการเชื่อมประโยคเสมอ โดยที่ไม่มีใครเคยสอนมาก่อนว่า そして นั้นใช้เฉพาะในภาษาเขียนเท่านั้น และคนญี่ปุ่นแทบจะไม่ใช้ในภาษาพูดเลย (ขอปี๊ปคลุมหัวแปป)
 ⒎ ใช้ไวยากรณ์ てしまった มาขึ้น ครั้งแรก。。。 ไม่มีใช้เลยแม้แตครั้งเดียว พอได้เรียนรู้ และนำมาประยุกต์ใช้ รวมถึงได้มองย้อนตัวเองในอดีตว่า แทบจะไม่ได้ใช้เลย ภาษาญี่ปุ่นของตนเองคงจะดูแข็งๆและไม่เป็นธรรมชาติเลย ต้องขอขอบพระคุณอาจารย์ และคนญี่ปุ่นที่สละเวลามาทำกิจกรรมนี้ ทำให้ภาษาญี่ปุ่นของนักเรียนไทยได้พัฒนามากขึ้นจริงๆค่ะ แม้จะไม่ได้เห็นการพัฒนาได้อย่างชัดเจนในการoutput แต่รู้สึกได้ถึงการพัฒนาของตนเองค่ะ 

2015年3月19日木曜日

「12」MYSELF_STORYTELLING1

สวัสดีค่ะ เจอกันอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ขอพักจากการเที่ยว มาเป็นสาระความรู้เต็มๆเลยดีกว่าค่ะ

สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เรียนเรื่องการเล่าเรื่องจากภาพเกิดปัญหามากมาย ความรู้ที่เรียนมาตั้งแต่ม.ปลาย....อย่าให้พูดเลยดีกว่า อายยันลูกบวช มาดูกันเลยดีกว่าค่ะ ว่ามันน่าอายแค่ไหน(ขอปี๊ปคลุมหัว)

ある二人のおじさんがソファーに座っている。一人目のおじさんは新聞を読んでいる。隣に座っているはあと二人目のおじさん。でもう一人の旅行者みたいな人は二人目のおじさんに地図。。。道を聞きたいみたい。でも、二人目のおじさんは答えたくないから、一人目のおじさんにもっと近くに移動して一緒に新聞を読む。

内省
 1. เริ่มขึ้นมาก็บอกเลยว่า มีลุงสองคน แล้วลุงสองคนนี้อยู่ที่ไหน สภาพแวดล้อมเป็นยังไงก็ไม่บอก คนฟังก็ไม่รู้ว่าเหตุการณ์มันเกิดที่ไหน
   2. "ลุงคนแรก" แล้วลุงคนนี้คือใคร รูปร่างยังไง ใส่แว่นมั้ย แค่บอกว่า ลุงคนแรกอ่านหนังสือพิมอยู่ นั่งอยู่ตรงไหนของโซฟา โซฟาเป็นยังไง ขาดการอธิบายสภาพแวดล้อมเป็นอย่างมาก พอมาอ่านอีกรอบแล้วรู้สึกว่าเป็นการเล่าเรื่องที่แย่มาก
 3. "ลุงคนที่สอง" ก็เช่นเดียวกัน จากรูปจะเห็นชัดเจนว่า คนนี้แต่งตัวอย่างไร ลักษณะรูปร่างควรจะบรรยายให้คนฟังรู้เรื่องด้วย  นั่งอยู่ส่วนไหน่ของโซฟา แล้วจากสภาพการณ์แล้ว เค้ากำลังทำอะไรอยู่หรือเปล่า หรือว่ากำลังรออะไร รอใคร หากไม่บรรยายให้ชัดเจน ก็ไม่นับว่าเป็นการเล่าเรื่องที่ดีเช่นกัน
 4. "นักท่องเที่ยว"ทีว่านั้น อยู่ที่ไหนของภาพ ก็ไม่ได้บรรยายบอก หรือว่าแต่งตัวอย่างไร อายุเท่าไหร่ เพศอะไร ดูเป็นตนต่างชาติมั้ย ขาดการอธิบายที่ดีเช่นกัน 
 5. ลุงคนที่สองไม่อยากตอบนั้น เพราะอะไรถึงไม่อยากตอบ ไม่สามารถเล่าถึงเหตุผลได้ชัดเจน ซึ่งประโยคก่อนหน้าก็ไม่ได้บอกว่า นักท่องเที่ยวคนนี้จะเข้ามาถามทาง หรือแค่บอกว่า กำลังดูแผนที่ เหมือนว่าอยากจะถามทางนะ แต่ประโยคถัดมาดันมาบอกว่า ไม่อยากตอบคำถาม 
 6. "เขยิบเข้าไปใกล้ๆ" ความจริงอยากอธิบายเป็นความหมายแบบนี้ แค่ก็ไม่รู้ว่าภาษาญี่ปุ่นใช้คำศัพท์ว่าอย่างไร ดังนั้น จึงพูดได้แค่ว่า เข้าไปใกล้ๆ แล้วก็อ่านหนังสือพิมพ์ด้วยกัน แต่การบรรยายว่าอ่านหนังสือพิมพ์ด้วยกันนั้นสามารถจินตนาการภาพได้หลายอย่าง กางหนังสือพิมพ์ออกมาอ่านด้วยกันบนโต๊ะ หรือเข้าไปอ่านด้วยกัน ในรูปภาพเห็นได้ชัดเจนว่า เจตนาที่ต้องการจะสื่อคือ ต้องการหลบนักท่องเที่ยวคนที่จะมาถามทาง จากบรรยายนั้น ไม่ได้เล่าเลยว่า เพราะเหตุใดจึงมาอ่านหนังสือพิมพ์กับคนที่นั่งอยู่ข้างๆและอ่านด้วยวิธีใด
 7. คำศัพท์ที่ใช้ ศัพท์เด็กๆทั้งนั้น แกรมม่าอะไรผิดหมด ไม่มีคำเชื่อมประโยคเลย เหมือนพูดจบประโยคแห้งๆ ตัดจบๆ ไม่มีความน่าสนใจ 
 8. ขาดการบรรยายเล่าเรื่องที่ดี อย่างน้อย ก็ต้องบอกว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร บรรยายสภาพแวดล้อมออกมาให้ละเอียดที่สุด จึงจะถือว่าเป็นการสื่อสารที่ดี หากขาดอย่างใดอย่างหนึ่ง พอย้อนกลับมาดูอีกทีจะเห็นได้ชัดเจนว่า เป็นการเล่าเรื่องที่ไม่น่าฟังเลย
 9. การทำกิจกรรรมในครั้งนี้ ทำให้ย้อนกลับไปดูตัวเองในสมัยก่อนว่า เวลาเล่าเรื่องให้เพื่อนคนญี่ปุ่นฟังนั้น มันขาดอรรถรส เราเล่าเรื่องตามแกรมม่าที่เรียนมา จบท้ายประโยคเป็นvる vますเท่านั่น ไม่ได้มีใช้คำเชื่อมเพื่อเพิ่มความสนใจเลย แต่ก็ขอขอบคุณคนญี่ปุ่น ที่มีあいづちอยากรู้อยากเห็น น่าฟัง  ตอบกลับมาเหมือนเรื่องที่เราเล่านั้นมันน่าสนใจมาก
 10. ในระหว่างที่เล่าเรื่องนั้น ขาดไปอีกหนึ่งอย่างคือ การเปิดโอกาสให้ผู้ฟังนั้นตอบโต้ในการเล่า ไม่ได้เว้นว่างจบประโยค พอจบประโยคนึงก็เริ่มประโยคนึงทันที เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ไม่มีเลยแม้แต่คำเดียวที่ผู้ฟังนั้นพูดโต้ตอบกลับว่า แต่เวลาเล่าเรื่อง มั่นใจว่า ผู้ฟังพยักหน้ารับรู้อยู่ตลอดเวลา อาจจะเป็นเพราะ คนไทยมักจะคิดว่า การพูดแทรกเป็นเรื่องเสียมารยาทหรือเปล่า จึงได้แต่พยักหน้าเข้าใจ และไม่เริ่มพูดจนกว่าผู้พูดจะพูดจบ แล้วจึงพูดแสดงความคิดเห็น 

2015年3月16日月曜日

「11」5月病の「病」

สวัสดีค่ะ ช่วงนี้อัพถี่นิดส์นึง เนื่องจากห่างหายไปนานเกินหนึ่งอาทิตย์

บทความในวันนี้ ขอเสนอคำว่า  5月病 ค่ะ อย่าเพิ่งงง ว่าเอ๊ะ ทำไมมาทำอะไรเดือนห้า

คำว่า 5月病 มีความหมายตรงตัวเลยค่ะ คือ ป่วยในเดือนห้า นั่นเอง คำนี้มีที่มานะคะ ไม่ใช่สุ่มเอาเดือนไหน ชอบเดือนนี้ อ๊ะ เอาเลยๆ ไม่ใช่ค่ะไม่ใช่

จากบทความที่แล้ว ปลายเดือนกุมภาพันธ์ จะจบปีการศึกษาใช่มั้ยคะ เปิดภาคการศึกษาใหม่ก็จะเดือนเมษายนค่ะ เรียนไปสักพัก ประมาณ 1เดือน....เกิดอะไรขึ้นคะ ขี้เกียจใช่มั้ย ปรับตัวไม่ทัน โอ๊ย อะไรกัน ชั้นเข้ากันกับโรงเรียนไม่ได้ ปวดหัว ตัวร้อน ท้องเสีย หยุดเรียนดีกว่า นั่นแหละค่ะนั่นแหละ คือ5月病 

หมายถึง พอเริ่มเข้าเดือนห้าแล้ว นักเรียนมักหยุดบ่อยๆ ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ป่วยจริง หรือว่าแค่ "ป่วยการเมือง"

5月病 คำว่า 病 เนี่ย แตกออกมาเป็น漢語 อะไรได้บ้าง ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ
คำที่น่าสนใจ มีคำว่าอะไรบ้าง

病欠(びょうけつ) หมายถึง การขาดงานเพราะป่วย อันนี้ป่วยจริงๆค่ะ ดอกจันทร์แปดร้อยดอก ใช้เยอะมากๆค่ะในที่ทำงาน

病死(びょうし) หมายถึง การป่วยตายค่ะ ดูน่ากลัวไปนิดนึง แต่แทนที่จะพูดเป็นประโยค คำเดียว เข้าใจ จบเลยจ้า

病癖(びょうへき)คำนี้ไม่เกี่ยวกับอาการป่วยเลยค่ะ มันหมายถึง นิสัยที่ไม่ดี แหมๆภาษาญี่ปุ่นนี้ ง่ายนิดเดียวนะคะ ง๊ายง่าย

และคำสุดท้ายที่ขอเสนอ 病苦(びょうく) หมายถึง ความทุกข์ทรมานจากความเจ็บป่วย ตรงตัวเลยค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ แม้จะเป็นคำศัพท์ง่ายๆ แต่คิดว่า น่าจะได้ใช้ในชีวิตประจำวันค่ะ อ่านง่าย จำง่าย ใช้ง่าย หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะคะ

____________________________

ป่วยๆๆๆๆๆ เอ๊ะ หาเรื่องเที่ยวให้หายป่วยกันดีกว่าค่ะ เดือนมีนาคม ที่ญี่ปุ่นยังมีสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามอีกมากมายมาแนะนำค่ะ วันนี้ ขอแนะนำสถานที่นี้ค่ะ

上高地(かみこうち)ตั้งอยู่ที่จังหวัด長野สวยมากกกกกกค่า ขอบอก ห้ามพลายเลยทีเดียว สามารถเข้าชมได้ปลายฤดูหนาว จนถึงต้นฤดูร้อน เสน่ห์ของที่นี่คือ  เราสามารถมองเห็นภูเขาที่มีหิมะปกคลุม พร้อมๆไปกับทิวทัศน์ แม่น้ำ สะพานไม้ ถ่ายรูปได้เก๋ไก๋ เอามาโชว์เพื่อนลง SNS ได้สบายๆเลยค่ะ


สำหรับวันนี้ ลาไปก่อนด้วยภาพสวยๆจากสถานที่งดงามทางธรรมชาติ หายป่วยแล้วอย่าลืมไปเที่ยวกันนะคะ สวัสดีค่ะ

内省 5月病 เคยได้ยินครั้งแรกเมื่อตอนไปแลกเปลี่ยนที่ญี่ปุ่นค่ะ นักศึกษาขาดเรียนกันเยอะมากๆ จนอาจารย์พูดในห้องว่า รู้จักคำนี้กันบ้างมั้ย หลังจากนั้นก็นึกขำตัวเอง เออความจริง คนไทยก็เก่งนะ ไม่เป็นกัน แต่อยากหยุดเมื่อไหร่ก็หยุดไปเลย แปลกดี
           คำว่า 5月病 เป็นแค่ใบเบิกทาง ให้เขียนบทความนี้เท่านั้น เนื่องจากผู้เขียนต้องการหาคำว่า ป่วย ที่ไม่ใช่ 病気 เพื่อไปใช้ในการทำงานพิเศษ ต้องการจะอีเมลบอกนายญี่ปุ่นว่า คนนี้ป่วยค่ะ เลยขาดงานไปหนึ่งวัน เลยลองหาดูว่ามันมีคำอะไรที่ใ้ช้ได้นอกจากคำว่า 病気บ้าง ก่อนหน้านี้เคยได้ยินคำว่า 病欠มาแล้ว แต่ก็ติดอยู่ที่ปาก นึกไม่ออกซักที พอมาเขียนบทความ เลยถึงบางอ้อเลยค่ะ ได้แล้วคำนี่นี่เอง 病欠 หาคำที่ต้องการได้แล้วก็นำไปใช้ตอบอีเมลนายทันทีค่ะ

2015年3月15日日曜日

「10」ホワイトディー 「愛」

สวัสดีค่ะ บทความดี สุขสันต์วันwhite day สำหรับคนมีคู่ ส่วนคนโสดก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ เพราะว่า ผู้เขียนจะอยู่เป็นโสดเป็นเพื่อนคุณเอง

รู้มั้ยคะว่า ประเทศไทย มีอัตราส่วนผู้หญิงมากกว่า ผู้ชายถึง 870000 คน เพราะฉะนั้น ไม่ต้องกังวลค่ะ ยังมีอีก870000คน ที่โสดเป็นเพื่อนคุณ อิอิ 

วันดีๆแบบนี้ ขอเสนอคำศัพท์ ความรัก ดีกว่าค่ะ 「愛」 เนี่ย มีความรักอะไรบ้างนะ อย่าเสียเวลา ไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ

คำแรก แหมๆๆๆ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ วัฒนธรรมอีกอย่างหนึ่งของคนญี่ปุ่นคือ 飲み会ใช่มั้ยคะ แล้วคนที่รักในการดื่มเนี่ย เรียกว่าอะไรรู้รึป่าว นั่นก็คือ 愛飲(あいいん)ค่ะ 飲み会に行きましょうか เน้นตัวใหญ่ๆเลยไปค่ะ สำคัญมาก คำนี้ อิอิ


飲み会 เสร็จแล้ว ไปไหนต่อค่ะ อ่ะแน่นอนนนนน ร้องเพลงค่ะ เข้าเลยค่ะ คาราโอเกะ จังคาระ หากไม่เห็นแสงพระอาทิตย์ยามรุ่งสาง ไม่เลิกค่ะ ขอเสนอคำว่า 愛唱(あいしょう)หมายถึง คนที่ชื่นชอบการร้องเพลง


คำต่อมา คนรักสัตว์ เยอะแยะใช่มั้ยคะ แต่ก็ลงลึกไปอีกนิดนึง เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนรักสุนัข  คนรักสุนัขคงมีหลายคน ขอเสนอคำนี้ค่ะ 愛犬(あいけん)

คำต่อไป สำคัญมากค่ะ รักกัน แต่งงานกัน ต้องมีคำนี้อยู่ในใจผู้ชายทุกคนค่ะ 愛妻(あいさい)หมายถึง ภรรยาที่รัก แต่ถ้าเติม「家」ลงไปเป็น 愛妻家(あいさいか)จะหมายถึง สามีภรรยาที่รักกันค่ะ

ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กอักษรแล้ว ต้องรักอะไรคะ "หนังสือ" ใช่มั้ยคะ อิอิ ขอเสนอคำว่า 愛書(あいしょ)หมายถึง ผู้ที่ชื่นชอบในการสะสมหนังสือ นี่แหละ เด็กอักษร

_____________________

วันดีๆ วันแห่งความรัก สถานที่ท่องเที่ยวที่จะนำเสนอ ก็ต้องเป็น date spot สิคะ ขอแนะนำที่นี่เลยค่ะ

赤レンガ ตั้งอยู่ใกล้ๆchina town และ みなとみらい ที่จังหวัด横浜ค่ะ เดินจูงมือกับคนรักไปเรื่อยๆ แหมๆๆๆ โรแมนติกใช่เล่นเลยค่ะ สถานที่นี้นอกจากจะเป็นที่เดทสำหรับคู่รักแล้ว มีประวัติด้วยนะคะ ในสมัยก่อนเนี่ยใช้เป็นคลังเก็บสินค้าค่ะ แต่ตอนนี้ดัดแปลงมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเปิดร้านขายของเก๋ๆ ถ่ายรูปสวยๆ บรรยากาศดี แอร๊ยยยยย 

 สวยใช่มั้ยคะ ผู้เขียนคอนเฟิร์ม ไปเห็นมาด้วยตาตัวเองเลยค่ะ

ลาไปด้วยภาพสวยๆของ 赤レンガ ใครผ่านไป横浜อย่าลืมแวะไปเที่ยวนะ เริ่ดมากค่ะ บอกเลย
 HAPPY WHITE DAY2015 ค่ะ ขอให้เจอเนื้อคู่ในเร็ววัน ไม่เจอก็ไม่เป็นไรนะคะ ยังมีอีกผู้หญิงอีก 869999คน ที่"โสด" เป็นเพื่อนคุณ 



内省 ยิงปืนนัดเดียว ได้นอกสองตัว เนื่องในวันแห่งความรัก เด็กๆทั้งหลาย โดยเฉพาะวัยรุ่น ก็ต้องโหยหาความรัก หรือชอบอะไรที่เกี่ยวกับรักๆใคร่ๆอยู่แล้ว เลยถือโอกาส หาคำศัพท์เกี่ยวกับความรัก ไปเป็นสื่อการสอนพิเศษอีกหนึ่งครั้ง แม้จะไม่ได้เป็นศัพท์ที่ยากมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่า เพียงแค่เอาคำศัพท์ง่ายๆมารวมกัน ก็สามารถเกิดเป็นความหมายใหม่ได้ 
           ต่อจากนี้จะเริ่มสังเกตมากขึ้น บางทีอ่านไม่ออกก็จริง ว่าต้องอ่านเป็นเสียงญี่ปุ่น หรือเสียงจีน แต่เห็นคันจิก็รู้แล้ว ยิ่งเขียนบทความมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งคิดว่า漢語นั้นไม่ใช่เรื่องยาก 

2015年3月10日火曜日

「9」卒業旅行の「卒」

สวัสดีค่ะ หลังจากห่างหายไปนาน เนื่องจากติดภารกิจสำคัญของชีวิต

บทความนี้ ขอเสนอเกี่ยวกับคำว่า 卒業旅行ค่ะ

ที่ญี่ปุ่นเนี่ย ภาคการศึกษาของเค้าจะต่างจากเรา คือ ปลายเดือนกุมภาพันธ์ก็จบปีการศึกษาแล้วค่ะ
หลังจากนั้น นักศึกษาที่ได้งานทำแล้ว เค้าก็จะจัดทริปจบให้กับตนเอง เรียกง่ายๆว่า 「卒業旅行」
แต่คนไทยไม่ใช่ใช่มั้ยคะ จบแล้วก็ หางานทำ....บางคนจบแล้วก็เริ่มทำงานเลย

วันนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของนักศึกษาญี่ปุ่นค่ะ ว่า卒業旅行 เค้าไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง แต่ก่อนที่เราจะไปถึงตรงนั้น มาเติมคำศัพท์ เพิ่มพูน漢語กันก่อนดีกว่าค่ะ

จบการศึกษาคือ  卒業 ใช่มั้ยคะ
ถ้าเติม「者」ลงไป 卒業者 จะหมายถึง ผู้จบการศึกษา
แต่ถ้าเติม「生」ลงไป 卒業生 จะหมายถึง ศิษย์เก่าค่ะ  อย่าสับสนนะคะ ^___^

แต่รู้มั้ยว่า มันไม่ใช่มีแค่นั้นนะ ยังมีคำว่า
卒園(そつえん)ที่แปลว่า จบการศึกษาในระดับอนุบาลอีกด้วยค่ะ

หากจะไปสอบขับรถแล้วได้เรียนจบหลักสูตร ก็จะใช้ว่า 卒検(そつけん)ค่ะ

นอกจากนี้แล้ว ตัวคันจิ 卒 เมื่อรวมกับคันจิตัวอื่นแล้วก็จะเปลี่ยนความหมายไปเลยค่ะ เช่น
卒中(そっちゅう)หมายถึง อัมพาต
卒倒(そっとう)หมายถึง เป็นลม หมดสติ

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ได้ความรู้กันไปแล้ว มาดูกันดีกว่าว่า 卒業旅行 เค้าไปเที่ยวกันที่ไหนบ้าง
อันดับ3

 เกาะที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ งดงามมากๆค่า ใครเคยไปแล้วจะหลงใหล
เมืองหลวง นักท่องเที่ยวเยอะ คงไม่แปลกใจที่ใครก็อยากสัมผัสความศรีวิไลซ์ใช่มั้ยละคะ

อันดับ1 ที่ๆสวยงาม มีทุกอย่างครบครัน สวนสนุกก็อยู่ใกล้นิดเดียวเอง คนญี่ปุ่นลงความเห็นกันแล้ววว่าคันไซน่าเที่ยวมากที่สุด อย่าลืมไปแวะเที่ยวคันไซก่อนจบการศึกษานะคะ ^_^


内省 ตอนแรกสนใจคำว่า 卒業 อย่างเดียว แต่พอเริ่มหาข้อมูล ไม่คิดว่า จะใช้คำนี้ในลักษณะของกริยาได้ด้วย และคำว่า อัมพาต หรือ หมดสติ เป็นลมนั้น ล้วนเป็นคำในชีวิตประจำวัน คำศัพท์เหล่านี้ คาดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะ อาชีพล่าม ซึ่งเป็นคำศัพท์ที่ไม่ตายตัว ไม่สามารถเตรียมตัวล่วงหน้าได้ จะเก็บไว้ในคลังคำศัพท์ เอาไปใช้ค่ะ



2015年2月23日月曜日

「8」ตามรอยวรรณกรรม 平家物語 ー清水寺

สวัสดีค่ะ กลับมาอีกแล้ว คราวนี้ กลับมาพร้อมกับความรู้ล้วนๆ

           วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ผู้เขียนต้องรายงานหน้าห้องเรื่อง 平家物語  จึงหาข้อมูลที่เป็นประโยชน์ พื่เอาไปบอกต่อให้เพื่อนๆในห้องใครที่เคยเรียนวรรณคดีญี่ปุ่น คงคุ้นๆชื่อนี้กันอยู่แล้ว วรรณกรรมเรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นเอก ที่สะท้อนเรื่องราวประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น เป็นวรรณกรรมนิยายสงคราม ที่ต้องการจะสื่อเรื่องอนิจจัง ความไม่เที่ยงแท้ของสรรพสิ่ง บุคคลผู้เคยเรืองอำนาจ สักวันก็อาจจะล่มสลายได้

            บทความในครั้งนี้ ขอเสนอ 漢語 ตามชื่อเรื่องคือ 「平家」ค่ะ
「平」 คือ ชื่อตระกูลทะอิระ  ส่วน「家」ก็คือ ครอบครัว วรรณกรรมเรื่องนี้จะเล่าเรื่องราวของตระกูลทะอิระ ตั้งแต่เริ่มเรื่องอำนาจ จนถึง ตระกูลล่มสลาย จึงเป็นที่มาของชื่อเรื่อง 「平家」ค่ะ

            ภายในเรื่อง มี漢語ที่น่าสนใจมากมาย จะขอยกตัวอย่าง keyword  ซึ่งอาจจะอยู่ในข้อสอบ(เก็งคันจินั่นเองค่ะ)

1。無常観 (むじょうかん) หมายถึง ความอนิจจัง ความไม่จีรัง สังเกตว่ามี 「無」อยู่ข้างหน้า และว่า ない คือ ไม่มีค่ะ

2。保元 (ほうげん) หมายถึง การแย่งชิงอำนาจ วรรณกรรมเรื่องนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการแย่งชิงอำนาจ การสู้รบ เลยคิดว่าเป็นอีกคำที่สำคัญที่น่าจะออกสอบค่ะ

3。栄枯盛衰 (えいこせいすい) หมายถึง มีรุ่งเรืองก็ต้องมีเสื่อม คำนี้อาจจะยากซักหน่อย แต่ว่า เป็นคำสำคัญเลยทีเดียวค่ะ เพราะวรรณกรรมเรื่องนี้ สะท้อนข้อคิดผ่านตระกูลทะอิระ ซึ่งเคยเรืองอำนาจ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องล่มสลายลง

4。軍記 (ぐんき) หมายถึง สงคราม อย่าลืมนะคะ ว่าวรรณกรรมเรื่องนี้ คือนิยายประเภทสงคราม(軍記物語)

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー
สาระความรู้ เก็งข้อสอบไปแล้ว หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์นะคะ แม้จะยังไม่ได้เข้ามาอ่าน แต่วันพฤหัสบดีนี้ จะบอกให้ห้องเรียนอีกทีค่ะ :)output ออกมาแล้ว ก็ต้องนำไปใช้ บอกต่อ ถึงจะมีประโยชน์

ชื่อบทความก็บอกอยู่ว่า ตามรอย平家物語 แน่นอนค่ะ ไม่พลาดดด พาไปเที่ยวดีกว่า
สถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำก็คือ 清水寺ค่ะ อยู่ที่จังหวัดเกียวโต คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส แล้ววัดนี้มีอะไรเกี่ยวข้องกับ平家物語ละคะ


คำตอบก็คือ วัดนี้ในสมัยก่อนเคยถูกเผาค่ะ ในเรื่องกล่าวไว้ว่า ช่วงสมัยจักรพรรดินิโจเสียชีวิต ได้เกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายในเมืองขึ้น และหนึ่งในเหตุการณ์วุ่นวายนั้นก็คือ วัดน้ำใส โดนเผานั่นเองค่ะ

ความสำคัญของวัดนี้ เชื่อกันว่า เป็นวัดแห่งความรักค่ะ (恋愛運) จะมีศาลเจ้าความรัก ที่ให้แตะหินก้อนแรกก่อน แล้วหลับตา เดินไปจนแตะหินอีกก้อนที่วางห่างออกไป หากสามารถไปแตะหินอีกก้อนได้ โดยระหว่างทางนั้นหากได้ยินเสียงบอกทาง คนๆนั้นก็คือ เนื้อคู่ เรานั่นเองค่ะ



นอกจากนี้ ยังมีสายน้ำสามสาย คือ สายการงาน สุขภาพ และความรัก(ความรักสายกลางค่ะ อิอิ) หากใครไป อย่าลืมต่อแถวดื่มน้ำสายกลางนะคะ (ผู้เขียนกรอกกลับบ้านมาแช่เย็นดื่มต่อด้วยค่ะ 555)

ขอให้อ่านนหนังสือสอบอย่างมีความสุขนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ
ครั้งหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหน อย่าลืมติดตามนะคะ

สวัสดีค่ะ

2015年2月20日金曜日

「7」1課〜6課の内省

แต่ละบทความที่เขียนไป เหมือนจะเลอะเลือนไปบ้าง หาประเด็นที่ต้องการจะสื่อไม่เจอ
วันนี้เลยคิดที่จะ内省ตัวเองค่ะ ว่าแต่ละบทความนั้น ต้องการจะสื่ออะไร

「1」และ「3」ただいま発車します。
เมื่อปีที่แล้วที่เท้าสองข้างเหยียบแผ่นดินญี่ปุ่น ด่านแรกเลยก็เจอสถานีรถไฟแล้ว คันจิบางตัวก็อ่านไม่ออก แม้จะศึกษามาบ้างแล้วว่า รถไฟญี่ปุ่นจะมีตารางเวลาและแต่ละขบวนจะมีความเร็วต่างกัน แต่ก็คิดว่าไม่เป็นไร คงรอดแหละ พอถึงสถานีเท่านั้นแหละ เงิบเลยค่ะ คันจิแปลว่าเร็วๆ เหมือนกันหมด แล้วตัวไหนมันเร็วกว่า อันไหนมันยังไง จากเหตุการณ์ในตอนนั้น ทำให้คิดว่า คนที่มาประเทศนี้ เรื่องรถไฟสำคัญที่สุด สองบทความแรกที่ตั้งใจจะทำ คือ ให้ความรู้เรื่องนี้กับคนไทยที่จะไปญี่ปุ่น แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องอยู่ที่ ขบวนรถไฟของแต่ละบริษัท จะมีคำศัพท์ต่างกัน แต่คำศัพท์ก็ยังคล้ายๆกันอยู่ หากมีโอกาส ก็อยากจะทำคำศัพท์ความเร็วของรถไฟในแต่ละบริษัทขึ้นมา เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจ และเลือกใช้ถูก รวมไปถึงเรียนรู้คำศัพท์ไปด้วย สนุกไปกับการเดินทาง และเรียนรู้ภาษาญี่ปุ่น

หลังจากเริ่มคิด เริ่มทำ และเริ่มเขียนบทความ ทำให้รู้คำศัพท์ คันจิ คำว่า"เร็ว" เลยถือโอกาสเอา blog นี้ ไปเป็นสื่อการสอนนักเรียนที่รับเป็นติวเตอร์อยู่ น้องกำลังสอบN3 เจอคำศัพท์คำว่า 急速 พอเจอปุ๊ปก็นึกขึ้นมาได้ เลย้ผิด blog ตัวเองให้น้องดู นี่ๆๆ พี่ทำอยู่พอดีเลย สอนไปด้วย เม๊าแตกไปด้วย สนุกดีค่ะ

「2」LANG8の内省
บทความนี้ ถือได้ว่าเป็นการ output ได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้ หลังจากที่ผู้เขียนได้คำแนะนำจากคนญี่ปุ่นแล้ว ก็ได้นำคำแนะนำตรงนั้น ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง คือ เมื่อวันที่13−15กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์งานบริษัทญี่ปุ่นที่ประเทศสิงคโปร์ ซึ่ง ได้เอาประโยคที่คนญี่ปุ่นแก้มาให้ 非常に興味深いこと ไปตอบคำถามตอนสัมภาษณ์ แทนที่จะใช้面白いก็เปลี่ยนมาใช้อันนี้แทน รู้สึกว่า การเปลี่ยนคำศัพท์เพียงนิดเดียว ก็สามารถเปลี่ยนการรับรู้ของคนได้เหมือนกัน

「4」−「5」秋になると、紅葉を見に行きましょうか。
ส่วนตัวแล้ว ฤดูญี่ปุ่นทั้งหมด 4ฤดู ชอบฤดูนี้มากที่สุด และตอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น สงสัยมากว่า こうよう เนี่ย ทำไมมันอ่านเหมือนもみじ เคยถามเพื่อนคนญี่ปุ่นแล้วเหมือนกัน แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ "มันก็เหมือนๆกันนะ ต่างกันยังไงก็ไม่รู้เนอะ" เลยอึ้งไปซักพัก แต่ก็ไม่ได้หาต่อว่า ทำไมมันเหมือนกัน ต่างกันยังไง การเขียน blog ครั้งนี้เลย คิดว่าเป็นโอกาสที่ดี ที่จะทำให้ตัวเองกระจ่าง และคิดว่าคงมีอีกหลายคนที่อาจจะเคยสงสัยแบบนี้เหมือนกัน นอกจากนี้ ยังอยากจะแนะนำสถานที่นอกรูทคนไทย ทัวร์ต่างๆที่พาไป ให้สัมผัสกับธรรมชาติ วัดที่สวยงามของประเทศญี่ปุ่น นอกจาก landmark ทั่วๆไป

Feedback ที่ได้รับกลับมาทั้งจากอาจารย์และเพื่อนคือ น่าจะทำให้ตรงกับฤดูกาล และเพื่อนถามเกี่ยวกับ concert ขาวแดง ที่ใช้คันจิตัว「紅」หากมีเวลา จะหาคำตอบมาให้ค่ะ

「6」ほっかいどう〜 美瑛の「美」
 จากfeedback ของอาจารย์ ก็เลยทำให้ตรงกับฤดูกาล หน้าหนาว คือ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวนอกรูทคนไทยและทัวร์ เอาประสบการณ์ของตนเองตอนออกเดินทางที่ประเทศญี่ปุ่นมา และนำใช้คำศัพท์จากสถานที่เหล่านี้ เพิ่มพูนความรู้เรื่อง漢語  ผู้เขียนมั่นใจพอสมควรว่า คงมีน้อยคนมากที่รู้จัก 美瑛 หากไม่ได้ค้นคว้าสถานที่ท่องเที่ยวอย่างจริงจัง คงไม่รู้จัก จึงเป็นโอกาสดีที่จะได้ใช้ประสบการณ์ของตัวเอง output บอกต่อให้คำอื่นรู้ รวมถึงคันจิคำว่า 「美」ตั้งแต่เรียนมา 美人 อย่างเดียวเลย พอมาค้นคว้าคำศัพท์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ「美」แล้วเลือกคำที่น่าจะใช้บ่อย หรือน่าสนใจออกมา และหวังว่า ผู้อ่านคงจะนำไปใช้ได้ แต่ที่แน่ๆ ผู้เขียนกำลังทำสื่อการสอนเพิ่มเติมไปสอนนักเรียนที่เรียนพิเศษด้วยอยู่ค่ะ

จากทุกบทความที่เขียนมา ทำให้เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาว่า ทุกครั้งที่เขียนบทความ จะต้องตั้งประเด็นที่ต้องการจะสื่อให้ชัดเจน บนหัวบทความ เวลาเขียนไปเรื่อยๆ จะเห็นประเด็นที่ต้องการจะสื่อ และไม่ออกนอกเรื่อง ไร้สาระ เอาแต่มันส์อย่างเดียว

สำหรับ内省ครึ่งแรก ขอจบเพียงเท่านี้ค่ะ เป้าหมายต่อไปคือ พยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุด มีสาระและผู้อ่านสามารถนำไป output  ได้ค่ะ

ราตรีสวัสดิ์ แล้วพบกันใหม่บทความหน้า จะพาไปเที่ยวไหน อย่าลืมติดตามนะคะ





2015年2月18日水曜日

「6」ほっかいどう〜 美瑛の「美」

สวัสดีค่ะ นักเดินทางทั้งหลาย

กลับมาอีกแล้วค่ะ เที่ยวไปพร้อมความรู้เล็กๆน้อยๆ
ครั้งนี้จะมาแนะนำสถานที่selfie เก๋ๆ สำหรับคนรักต้นไม้
ตอนนี้ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาวใช่มั้ยคะ คนไทยค่ะคนไทย ฤดูหนาว ไปไหนกันคะ
ฮอกไกโดค่ะ ดูเหมือนว่าเมืองนี้จะเป็นsignature เลยก็ว่าได้ แล้วฮอกไกโดมีอะไรเที่ยวบ้าง
นอกจากเทศกาลหิมะ และตัวเมืองซัปโปโร กินปู ซุปแกงกะหรี่ เมลอน ไม่ว่าทัวร์ไหนก็ รูทเดิมๆ
วันนี้ จะมาแนะนำสถานที่เก๋ๆ ชิคๆค่ะ คนไทยไม่ค่อยรู้จักกันค่ะ

ที่จะแนะนำก็คือ 美瑛(びえい)อยู่ห่างจากเมืองซัปโปโรไปประมาณ1ชั่วโมงค่ะ นั่งรถไฟง่ายม๊ากก ไม่ต้องกังวัล หากใครเริ่มต้นจากเมืองซัปโปโร ให้นั่งรถไฟJR ไปลงสถานีasahikawa ใครจะแวะชมสวนสัตว์ก่อนก็ได้นะคะ หลังจากนั้นให้เปลี่ยนเป็นรถไฟท้องถิ่น ไปลงที่สถานี 美瑛 ได้เลยค่ะ ง่ายมากๆ แต่ต้องรักษาเวลานิดนึงนะคะ เพราะรถไฟท้องถิ่นจะมีรอบน้อยค่ะ หากใครขึ้นไม่ทันขบวนสุดท้าย ลำบากแย่เลย


 美瑛 จะเด่นที่ต้นไม้ค่ะ จะมีต้นไม้ที่มีความหมายกับสถานที่นั้นๆ ตามแต่ละสถานที่จะมีป้ายบอกประวัติไว้ เพราะอะไรถึงมีความสำคัญ

นอกจากจะชมต้นไม้ ธรรมชาติแล้ว ยังมีออนเซ็น ให้แช่ด้วยค่ะ แช่ไปด้วย ชมบรรยากาศภายนอกไปด้วย สวยงาม และคลายความหนาว แก้ปวดเมื่อยด้วย เยี่ยมไปเลยค่ะ

สองรูปข้างบน ถ่ายเองกับมือเลยค่ะ ถึงจะเป็นคนถ่ายรูปไม่เก่ง ภาพก็ออกมาสวยได้ เพราะเป็น 美瑛ค่ะ

ーーーーーーーーーーーーー

เที่ยวอย่างเดียวไม่ได้ ขอให้ความรู้ว่า คันจิ 美 ที่น่าสนใจค่ะ
เป็นกุลสตรีนั้น ควรจะมี美อะไรบ้าง 
ข้อแรก  美挙(びきょ) หมายถึง うつくしい行為 การกระทำที่ยอดเยี่ยมสมควรแก่การชมเชย
ข้อสอง 美言(びげん) หมายถึง うまくいう言葉 คำศัพท์ที่พูดแล้วลื่นหู
ข้อสาม 美感(びかん) หมายถึง 美に対する感覚 มีความคิดที่งดงาม
ข้อสี่   美音(びおん) หมายถึง うつくしい音または声 เสียงที่ไพเราะ

เชื่อค่ะว่า ถ้ามีครบ4美 นี้แล้ว จะกลายเป็น 美人ที่สวยจากภายใน ใครเข้ามาสัมผัสก็หลงใหล

แม้จะช้าไปนิด แต่ก็happy valentine day ค่ะ  



2015年2月9日月曜日

「5」秋になると、紅葉を見に行きましょうか。(2)

สวัสดีค่ะ มาตามคำสัญญา แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ เก๋ๆ สำหรับฤดูใบไม้ร่วง

ขอเสนอ東福寺(とうふくじ)ค่ะ เป็นวัดที่อยู่ในจังหวัดเกียวโต สามรถเดินทางได้ด้วยรถไฟJR
ขอบอกว่า มัน สวย สวย สวย และสวย มากๆค่ะ


หากใครได้แวะไปเกียวโต เที่ยววัดดังทั้งหลายแล้ว อย่าลืมมาเที่ยววัดนี้นะคะ เริ่ดมากๆค่ะ ขอบอก

ーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーーー

ยังค่ะยัง ยังไม่จบแต่เพียงเท่านี้สำหรับ 紅葉 เคยสังเกตมั้ยคะว่า 「紅」มันแปลว่าอะไร ใบไม้แดงทำไมถึงไม่เรียกว่า 「赤」แล้วที่เห็นในภาพมันมีสีเหลืองด้วยนี่นา เอ๊ะ เอ๊ะ เอ๊ะ ทำไมละ

คำตอบก็คือ 「紅」นอกจากอ่านว่า こう แล้ว ยังอ่านว่า あか、くれない、べに ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่แปลว่า สีแดงค่ะ

ส่วนใบไม้สีเหลืองนั้น ก็อ่านว่า こうようเหมือนกันนะคะ แต่ใช้คันจิ 黄葉 ค่ะ  ตัว「黄」ก็คือ きいろい ที่แปลว่า สีเหลืองนั่นเองค่ะ

วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้นะคะ ไปเที่ยวสนุกๆ ก็กลับมาพร้อมกับความรู้เสมอค่ะ :)บทความหน้าจะพาไปเที่ยวที่ไหนต่อ อย่าลืมติดตามนะคะ
สวัสดีค่ะ

2015年2月8日日曜日

「4」秋になると、紅葉を見に行きましょうか。(1)

ถ้าเริ่มเข้าสู้ฤดูใบไม้ร่วงแล้วละก็...สิ่งที่พลาดไม่ได้ทั้งคนไทยและคนญี่ปุ่นเอง นั่นก็คือ เที่ยวชมดอกไม้เปลี่ยนสีตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ แล้วที่ไหนละ ที่มันไปแล้วฟินสุดๆ วันนี้จะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆค่ะ

แต่ แต่ แต่ แต่ เราจะมาบันเทิงอย่างเดียวไม่ได้ เดี๋ยวไม่ได้คะแนน ต้องสอดแทรกความรู้เข้าไปบ้าง
เคยสงสัยกันบ้างรึป่าวคะ ว่า คันจิตัวนี้นั้น 「紅葉」อ่านออกเสียงว่าอะไร

แน่นอนค่ะ เวลาชวนใครไปชมดอกไม้แดง ก็จะชวนว่า 紅葉(こうよう)を見に行こうか?

หากใครเคยไปเที่ยวฮิโรชิม่า น่าจะเคยทานขนมชื่อดัง 紅葉まんじゅう(もみじまんじゅう)


 อ้าว อ้าว อ้าว ทำไมคันจิตัวเดียว มันอ่านไม่เหมือนกัน ความหมายก็เหมือนกัน เอ๊ะ แล้วมันต่างกันยังไง

紅葉 こうようตัวนี้ หมายถึงใบไม้เปลี่ยนสีที่เปลี่ยนเป็นสีแดงของไม้ยืนต้น ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆที่เราเห็นนี่แหละค่ะ เรียกกันว่า こうよう
紅葉 もみじ ตัวนี้ หมายถึง ใบไม้カエデในฤดูใบไม้ร่วงที่เปลี่ยนสีเป็นสีแดง

สรุปสั้นๆ(ข้างบนก็สั้นอยู่แล้ว) ก็คือ หากเราพูดถึงこうようจะเห็นเป็นต้นไม้ในที่กว้าง ที่มีใบไม้แดงตกสวยๆกลางถนน   แต่หากเราพูดถึง もみじ ก็จะเจาะจงลงไปเฉพาะใบไม้カエデที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

ดังนั้น 紅葉まんじゅう มีลักษณะเป็นรูปใบไม้ カエデ ก็เลยเรียกว่า もみじ นั่นเองค่ะ

หวังว่าทุกคนคงจะเข้าใจว่ามันต่างกันยังไง หากใครมีโอกาสไปเที่ยวฮิโรชิมา ก็อย่าลืมอุดหนุน もみじまんじゅうนะคะ อร่อยมากๆค่ะ

ครั้งนี้ขอเอาไว้เท่านี้ก่อน (เอ๊ะ ไหนๆๆ สถานที่ท่องเที่ยวเด็ดๆ) ผู้เขียนคิดว่า หากอัพยาวไป ผู้อ่านจะตัดสินใจเปลี่ยนไปอ่านblog คนอื่นแทน สถานที่ท่องเที่ยวดังๆ ขอเป็นบทความหน้านะคะ อิอิ

สวัสดีค่ะ

2015年2月4日水曜日

「3」ただいま発車します!(2)

ただいま発車します!(2)
 
เรื่อง ความเร็วของรถไฟค่ะ

รถไฟแต่ละขบวนหลังจากที่กล่าวไปครั้งที่แล้วคือ มีธรรมดา เร็ว เร็วมาก เร็วมากๆ เร็วมากๆๆ 
ตอนแรกที่มิ้นเจอก็งงค่ะว่า คันจิมันก็เหมือนๆกัน แปลว่าเร็วเหมือนกัน แล้วอันไหนเร็วกว่ากัน เอ๊ะๆๆ

จะถามใครก็ไม่ได้ พอเปิดปากพูดก็ได้แต่ えー えーと あのう なんか なんか ตามสไตล์เด็กอักษรเอกญี่ปุ่น ก็เลยลองค้นคว้าดูค่ะ สรุปคร่าวๆได้ว่า


準急(じゅんきゅう)Semi-express กึ่งเร่งด่วน

(じゅん) ตัวนี้มาจากคำว่า 準備(じゅんび)หมายถึง เตรียมตัว
(きゅう) ตัวนี้มาจาก 急ぐ(いそぐ)หมายถึงเร่งรีบ 

เตรียมตัวจะรีบ เตรียมตัวจะเร็ว สรุปคร่าวๆได้ว่า รีบนิดนึงละกัน กึ่งๆรีบ


快速 (かいそく)  Express ด่วน

(かい)หมายถึง พึงพอใจ
(そく)หมายถึง 速やか เร่งด่วน


เร่งด่วนในระดับที่พึงพอใจ อ๊ะๆ เร็วขึ้นมาอีกระดับนึง 


 快速急行 (かいそくきゅうこう) Rapid Express 

 快速 (かいそく)  หมายถึง Express ด่วน
 急行 (きゅうこう)หมายถึง moving at high speed ดูจากภาษาอังกฤษ มันก็ด่วน..ขนาดนี้

พอเอาสองคำมารวมกัน วิ่งด้วยความเร็วด่วนแบบ high speed  เอ๊ะ มันด่วนยังไง ต้องลองไปนั่งดูค่ะ


通勤特急 (つうきんとっきゅう)Commuters limited express

 通勤 (つうきん)หมายถึง การไปทำงาน
特急 (とっきゅう) หมายถึง ด่วนพิเศษ 

เอาเข้าไปค่ะ มีด่วนด้วยความเร็วสูง แล้วยังมีด่วนพิเศษ แล้วชนิดนี้ยังเป็นด่วนพิเศษสำหรับคนไปทำงานอีกนะคะ เก๋น่าดู

特急 (とっきゅう)Limited express

  (とく) หมายถึง พิเศษ
 (きゅう) หมายถึง เร่งรีบ

แปลง่ายๆตรงตัวเลยก็คือ ด่วนพิเศษอย่างเร่งรีบ อะไรที่แปลว่าเร็ว เอามารวมอยู่ในคำนี้ให้หมดเลยค่ะ

เร็วไม่รู้จะเร็วยังไง ด่วนมากๆค่ะ หลับไม่ได้นะคะ เดี๋ยวเลยสถานี ^_^” 

「2」LANG8 の内省



บทความที่2 
研究の内省

จากการเขียน自分の研究ลงในLANG8 มีคนญี่ปุ่นใจดีตรวจไวยากรณ์ให้ทั้งหมด 3 คนค่ะ


こんにちは。

私は日本の社会に興味を持っています。今は日本人の学生の就職活動について研究しています。日本とタイの就職活動は全く違います。非常に面白いと思います。
例えば、日本は4回生から会社に説明会に参加します。面接も3−4回をうけます。
一方、タイは大学を卒業してから、就職を始めます。

よろしければ、書き直していただけませんか。
ありがとうございました。

มีไวยากรณ์ที่ถูกแก้ ดังนี้



ปกติแล้วจะใช้คำว่า 「今」ตลอดเวลาเลยค่ะ น้อยครั้งมากที่จะใช้ 「現在」หากใช้คำนี้มักเขียนในรายงานหรือวิชาการเขียนมากกว่า พอโดนแก้มาแบบนี้ก็นึกขึ้นได้ว่า ใช้แต่今มาตั้งแต่เริ่มเรียน ต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปใช้ 現在 บ้างค่ะ ดูโปรขึ้นมานิดนึง



 เนื่องจากภาษาไทย มักเรียงประโยคด้วย ประธาน  กริยา กรรม จึงทำให้ตัวผู้เขียนนั้น มักเริ่มต้นด้วยโครงสร้างประโยคแบบนี้ตลอด พอโดนแก้ให้เขียน その違い ก็เลยนึกขึ้นได้ว่า หากอ่านงานภาษาญี่ปุ่นในหลายๆเรื่องแล้ว มักหยิบTopic ที่จะพูดขึ้นมาก่อน แล้วค่อยตามด้วยความเห็นว่า มีความเห็นเป็นอย่างไร

อีกหนึ่งที่คือ 何〜と思います。พอแก้เป็น何〜ことです。ภาษาญี่ปุ่นดูโปรขึ้นมาทันที ต่อจากนี้ จะเก็บไปใช้บ้างค่ะ มีประโยขน์มากๆ


 คำช่วย助詞 เป็นปัญหาโลกแตกสำหรับผู้เขียน ใช้ยังไงก็ผิดตลอด ยังแยกไม่ค่อยออก ทั้งๆที่ควรจะเป็นเรื่องแรกๆที่ควรแม่นได้แล้ว เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา สุดท้ายก็ยังผิดอยู่ดี ตามรูปที่แก้มา เห็นได้เลยว่า会社の説明会 คำนามสองตัวต่อกัน ควรจะใช้คำช่วย の เชื่อม และแปลว่า การบรรยายของบริษัท ตอนที่ใช้にนั้น เนื่องจากแปลว่า การบรรยายที่บริษัท

 อันนี้ค่อนข้างงงนิดหน่อยค่ะ เนื่องจากประโยคน่าจะมีคำช่วยをเพื่อบอกว่ากริยานั้นแสดงอะไร


 ส่วนสุดท้ายที่โดนแก้คือ คำช่วยอีกตามเคย タイでは พออ่านแล้วรู้เลยค่ะว่า เค้าต้องการให้เราเน้นว่า ไทยไม่เหมือนกับญี่ปุ่น ส่วน就職 จะใช้แค่คำนี้ไม่ได้ ต้องเอามาให้ครบเป็น 就職活動 หรือไม่ก็เปลี่ยนเป็น 就活 ไปเลย

FEEDBACK จากคนญี่ปุ่น

จากคุณ yuyu

 略して’就活’と呼ぶことが多いです^^

おもしろい研究内容ですね^^
私はタイに興味があるので、色々知りたいです!
よろしくおねがいします!

จากคุณ racco
よい研究ができるといいですね。
สู้ๆ

พออ่านFEEDBACK  แล้ว มีการให้กำลังใจด้วย อ่านแล้วดีใจค่ะ ถึงเป็นการให้กำลังใจ ใช้คำพูดธรรมดาก็เถอะ แต่รู้ว่า เค้าตั้งใจแก้ให้เราจริงๆ ไม่ใช่แก้เพื่อปั่น point

ขอบคุณค่ะ









2015年1月23日金曜日

「1」ただいま発車いたします。(1)


สวัสดีค่ะ ผู้อ่านทุกท่านที่รักการเดินทาง สนใจประเทศญี่ปุ่น
บทแรกสำหรับ楽しい人生を始めましょう!นั้น ขอเสนอเรื่อง "รถไฟ"ค่ะ

สำหรับนักเดินทางท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นแล้ว คงปฏิเสธไม่ได้ว่า "รถไฟ" เป็นพาหนะที่สะดวก รวดเร็ว ราคาถูก ที่สุดในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน "รถไฟ"นี่แหละค่ะ เป็นสิ่งสำคัญสิ่งแรกๆที่เราจะต้องนึกถึง พูดถึงรถไฟญี่ปุ่นแล้ว นึกถึงอะไรกันเป็นอย่างแรกคะ สำหรับมิ้นแล้ว นึกถึง 時刻表(jikoku hyo ค่ะ 

รถไฟที่นำมายกตัวอย่างนั้น เป็นรถไฟบริษัท 阪急電車 (hankyu densha) ให้บริการในจังหวัดโอซากา เกียวโต และเฮียวโกะ(โกเบ) ค่ะ

時刻表(jikokuhyo) หมายถึง ตารางเวลาหรือ Time table นั่นเองค่ะ ตารางเวลาจะติดอยู่ตามสถานีทุกๆสถานี แยกออกเป็น 平日(heijitsu) (วันธรรมดา)และ 土日(donichi)/休日(kyujitsu) (วันเสาร์ อาทิตย์ /วันหยุดราชการ) 

ตารางเวลา จะบอกรายละเอียดเป็นชั่วโมงค่ะ ทั้ง始発(shihatsu)(เที่ยวแรก)จนถึง終電 (shuden)(เที่ยวสุดท้าย)
時刻表 Time Table
เมื่อดูจากตารางเวลาแล้ว สงสัยกันมั้ยคะว่า ทำไมตารางเวลาถึงมีดาว ตัวเลขมีสีที่แตกต่างกัน แล้วมันคืออะไร เราควรจะขึ้นอันไหน จะจอดสถานีที่เราจะลงมั้ย หรือว่า เราควรขึ้นๆมันไปก่อน แล้วไปตายเอาดาบหน้า ลงๆขึ้นๆ มั่วไป  คงสนุก ตื่นเต้นดี 

สำหรับมิ้นแล้ว เคยลองแล้วค่ะ "หนูว่าขึ้นๆมันไปก่อนเถอะพี่ กว่ามันจะมาอีกขบวน รอนานนะ ไปมั่วๆเอาข้างใน ถามเค้าเอาละกัน" มันเคยเกิดขึ้นมาแล้วค่ะ ขอบอกเลยว่า ไม่เวิร์คเลยซักนิดเดียว เพราะคนญี่ปุ่นที่ขึ้นรถไฟขบวนเดียวกับเรา เค้าเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสถานีที่เราจะลงนั้นมันผ่านรึป่าว เพราะทุกวัน เค้าก็ขึ้นสายนี้ไปทำงาน แล้วก็นั่งสายเดิมกลับบ้าน สถานีที่รู้จัก ก็รู้จักแค่ในสายที่นั่งทุกวัน T^T

สีดำ 普通 (futsu)หมายถึง รถไฟธรรมดา ที่จอดทุกสถานี 各駅(kakueski) ตั้งแต่สถานีแรกจนถึงสถานีสุดท้าย หากกลัวหลง ขึ้นขบวนที่เป็นป้ายสีดำก่อนเลยค่ะ ไม่หลงแน่ๆ

สีเขียว 準急(jyunkyu) หมายถึง รถไฟกึ่งรถด่วน จะไม่จอดแค่บางสถานีเท่านั้น เป็นสถานีเล็กๆที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับขนส่งสาธารณะอื่นๆ ชานชาลาเล็กๆ หากนั่ง準急(jyunkyu) ก็จะเร็วขึ้นมาหน่อยค่ะ

สีฟ้า 快速(kaisoku) หมายถึง รถด่วน จะเว้นระยะห่างออกมาจาก準急(jyunkyu)เล็กน้อยค่ะ ไม่ต่างกันมาเท่าไหร่ เร็วขึ้นมาอีกนิดนึง

สีเหลือง  快速急行(kaisoku kyukou) หมายถึง รถด่วนexpress  快速急行(kaisoku kyukou) มักพบมากค่ะ เนื่องจากเป็นขบวนที่จอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆเท่านั้น จากโอซากา ไป เกียวโต ใช้เวลาเพียง45 นาที ในราคา 400 เยน

สีส้ม 通勤特急(tsukin tokkyu) หมายถึง รถด่วนสำหรับเวลาเร่งด่วน มักพบในเวลาเร่งด่วนค่ะ จะจอดเฉพาะสถานีใหญ่ๆ หรือสถานีที่เปลี่ยนสายจากเมืองนึงไปอีกนึง สะดวก รวดเร็วแต่เวลาไม่ต่างจาก快速急行 มากนักค่ะ พอๆกัน

สีแดง 特急(tokkyu) หมายถึง รถด่วนพิเศษ เร็วที่สุดค่ะ จอดสถานีใหญ่และรู้สึกได้เลยค่ะว่าขับเร็วมาก พอจอดที่สถานีทีไร ได้กลิ่นไหม้อบอวลเมื่อประตูเปิดออก แต่ถึงจะมีกลิ่นไหม้ ผู้โดยสารก็เต็มขบวนตลอดเวลานะคะ สะดวก รวดเร็ว สมกับเป็น 特急(tokkyu)จริงๆค่ะ ใช้เวลาจากโอซากา ไป เกียวโตเพียง 30 นาทีเท่านั้นค่ะ

แต่ละบริษัทที่ให้บริการรถไฟนั้น ประเภทของรถไฟแตกต่างกันไปค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นประมาณนี้ เวลาที่เราจะขึ้นรถไฟ อันดับแรก ให้ดูที่สถานีที่เราจะลงก่อนค่ะ จากนั้นให้ไล่ไปว่า สถานีนี้รถไฟประเภทไหนจอดบ้าง แล้วค่อยไปดูตารางเวลาเป็นลำดับสุดท้ายค่ะ 

พร้อมขึ้นรถไฟไปเที่ยวกันรึยังคะ ถ้าพร้อมแล้วก็ ただいま発車いたします!(1)